นับตั้งแต่ไวรัสโควิด-19 ระบาดในประเทศไทย จนทำให้รัฐบาลขอความร่วมมือ Work from Home ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้หลายธุรกิจประสบปัญหา หรือต้องหยุดชะงักลง แต่สื่อทีวีและสื่อออนไลน์กลับได้อานิสงส์จากวิกฤติในครั้งนี้ จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้เวลาในการดูทีวีมากขึ้น กลุ่มที่เสพสื่อออนไลน์ก็ใช้เวลามากขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะสื่อวิทยุที่ผู้บริโภคสามารถฟังเพลงได้จากแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น จากผลสำรวจของ นีลเส็น มีเดีย รีเสิร์ช พบว่า COOLfahrenheit สถานีวิทยุในเครือ อาร์เอส กรุ๊ป ขึ้นอันดับหนึ่งโดยมีผู้ฟังวัยทำงานอายุ 20-44 ปี มากที่สุด และยังสร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้วยการทุบทุกสถิติการฟังเพลงออนไลน์สูงสุดในรอบ 12 เดือน ด้วยการเข้าฟังมากสูงสุดกว่า 1.2 ล้านครั้งต่อชั่วโมง ในช่วงเวลาทำงาน Work from Home 8.00-18.00 น. และเพื่อเป็นการช่วยเหลือลูกค้าในหลากหลายกลุ่มที่อาจพบปัญหาในการดำเนินธุรกิจ และสร้างยอดขายในช่วงนี้ COOLfahrenheit จึงจัดแคมเปญ “จับมือสู้โควิด-19” เพื่อช่วยคู่ค้าและพันธมิตร สปอนเซอร์ คิดกลยุทธ์และกิจกรรมที่เหมาะสมกับสถานการณ์และสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพกับกลุ่มลูกค้าที่นิยมฟังเพลงในระหว่าง Work from Home
จากผลสำรวจของ นีลเส็น มีเดีย รีเสิร์ช พบว่า คลื่นวิทยุที่มีผู้ฟังมากที่สุด 5 อันดับแรก ช่วงอายุระหว่าง 20-44 ปี มีมาร์เก็ตแชร์ดังนี้
อันดับ 1 COOLfahrenheit มีส่วนแบ่งการตลาด 61.7 %
อันดับ 2 คลื่น 95.5 มีส่วนแบ่งการตลาด 10.7 %
อันดับ 3 คลื่น 103.5 มีส่วนแบ่งการตลาด 7.6 %
อันดับ 4 คลื่น 106.5 มีส่วนแบ่งการตลาด 6.9 %
อันดับ 5 คลื่น 94 มีส่วนแบ่งการตลาด 5.3 %
นายปริญญ์ หมื่นสุกแสง หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจวิทยุคูลลิซึ่ม กล่าวว่า “ปัจจัยหลักที่ทำ COOLfahrenheit ครองอันดับ 1 ทั้งบน FM และการมีจำนวนยอดผู้ฟังออนไลน์ที่สูงขึ้นในรอบ 12 เดือน ในช่วงที่โควิด-19 ระบาด เกิดจากการปรับตัว และวางแผนกลยุทธ์ให้เข้ากับสถานการณ์ ดังนี้
จากความนิยมฟังเพลงที่เกิดขึ้นจึงนำไปสู่ที่มาของแคมเปญ “จับมือสู้โควิด” โดย นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธุรกิจวิทยุเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ต้องรับมือการเปลี่ยนแปลง เผชิญกับการปรับตัวเพื่อความอยู่รอดในยุค Media Disruption เนื่องจากพฤติกรรมการรับคอนเทนต์และช่องทางการรับสื่อของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ยิ่งต้องปรับตัวให้เร็วและทันต่อสถานการณ์ แต่ในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 ระบาด กลับส่งผลดี หลังจากที่ผู้บริโภคต้องใช้เวลาในบ้านมากขึ้น ทำให้การใช้เวลาฟังเพลงบนโลกออนไลน์มากขึ้นตามไปด้วย ส่งผลให้ผู้ฟัง COOLfahrenheit ฟังเพลงผ่านระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น 10% ทุบสถิตินิวไฮในรอบ 12 เดือน ด้วยจำนวนผู้ฟังร่วมกันเข้าฟังกว่า 22 ล้านครั้งต่อเดือน เฉลี่ยต่อคนฟังนานถึงกว่า 3 ชั่วโมง/วัน ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในบรรดาแพลตฟอร์มการฟังที่เป็นเรดิโอออนไลน์ทั้งหมดของประเทศไทย”
“นี่จึงเป็นเหตุผลหลักให้เราจัดแคมเปญ “จับมือสู้โควิด-19” ขึ้น เพื่อช่วยเหลือธุรกิจของคู่ค้าและพันธมิตรให้สามารถดำเนินต่อไปได้ เพราะจากการวิเคราะห์ทางด้านการตลาด เราเล็งเห็นว่ามีหลายธุรกิจยังพอขายสินค้าได้และต้องการพยุงธุรกิจให้เดินหน้าต่อ รวมถึงธุรกิจสินค้ารายใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นพร้อมโอกาสในช่วงสถานการณ์นี้ แต่อาจไม่เชี่ยวชาญหรือไม่เคยใช้สื่อวิทยุมาก่อน ดังนั้น COOLfahrenheit จึงอยากเปิดพื้นที่สื่อโฆษณาของเราโดยจะจัดสรรให้ตรงกับความต้องการของพันธมิตรให้มากที่สุดในทุกมิติ รวมถึงงบประมาณที่ยืดหยุ่นอย่างไม่เคยมีมาก่อน พร้อมทั้งให้คำปรึกษาจากทีม Media Consultant” นายสุรชัย กล่าวเพิ่มเติม
COOLfahrenheit พร้อมเปิดโอกาสให้แบรนด์สินค้าไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ได้เข้ามาทดลองใช้แพลตฟอร์มทั้งหมดที่มีในช่วงวิกฤตินี้และได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า เพื่อตอบโจทย์สินค้าและบริการที่เจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้อง Work from Home และกลุ่ม Delivery ในขณะนี้ โดยมีทีมที่ปรึกษาด้านมีเดียและการตลาดช่วยแนะนำลูกค้าและคิดกลยุทธ์ในการต่อยอดโฆษณาเพื่อส่งเสริมการขายให้แก่คู่ค้า นำเสนอสินค้าให้ตรงจุด และครบวงจร ตอบสนองความต้องการของคู่ค้าแต่ละรายที่มีโจทย์ต่างกัน โดยเบื้องต้นได้กำหนดช่วงของแคมเปญไว้ 3 เดือน โดยเริ่ม 1 พฤษภาคมนี้ ผู้สนใจสามารถติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสามารถส่งรายละเอียดเพื่อให้ทีม Media Consultant ติดต่อกลับได้ที่โทร. 02-037-8312
ในวิกฤติยังมีโอกาสเสมอ หากเราเตรียมพร้อมและปรับเปลี่ยนให้ทันกับสถานการณ์ RS GROUP ขอร่วมเป็นกำลังใจให้ทุกฝ่ายก้าวผ่านช่วงภาวะวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นี่ไปให้ได้ และสามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.rs.co.th