ลาดพร้าว-นายดามพ์ นานา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปี 2559 บริษัทฯ มีรายได้หลักรวม 3,124.9 ล้านบาท มาจาก 4 ธุรกิจหลักด้วยกัน ได้แก่ ธุรกิจสื่อ 1,814.7 ล้านบาท, ธุรกิจเพลง 321.6 ล้านบาท, ธุรกิจอีเวนต์ 753.2 ล้านบาท, ธุรกิจสุขภาพและความงาม 227.9 ล้านบาท และมีผลขาดทุน 102.1 ล้านบาท ถือเป็นตัวเลขขาดทุนน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ เนื่องด้วยแม้ธุรกิจสื่อทีวีและวิทยุจะทำรายได้ 1,814.7 ล้านบาท ลดลง 19.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ “ช่อง 8” ซึ่งเป็นรายได้หลักของธุรกิจสื่อทีวีของบริษัทฯ กลับทำได้ดีสวนทางกับตลาดโดยรวม สอดคล้องกับผลสำรวจของ AGB Nielsen Media Research (Thailand) ระบุว่า ช่อง 8 มีจำนวนผู้ชมช่วงปลายปีเพิ่มขึ้นจากปลายปี 2558 มากถึง 13.9% อันเป็นผลจากความแข็งแกร่งของรายการกลุ่มกีฬา ได้แก่ 8 Max มวยไทย, เดอะ แชมเปี้ยน มวยไทยตัดเชือก, ศึกมวยโลก ช่อง 8 HBO Boxing และ UFC มวยกรง 8 เหลี่ยม” รวมทั้งรายการข่าว นำโดย “คุยข่าวช่อง 8” ซึ่งสร้างสถิติใหม่ทำให้ เรตติ้งรายการข่าวติดอันดับ 1 ในกลุ่มผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลรายใหม่ และอันดับ 3 ของประเทศ
ขณะที่ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ภาครัฐใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งผลักดันโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมมากขึ้น ทำให้การใช้จ่ายภายในประเทศมีการฟื้นตัวและเติบโตต่อเนื่อง ส่งผลให้อุตสาหกรรมสื่อเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน จึงเชื่อมั่นว่าในปีนี้อาร์เอสจะเติบโตแบบก้าวกระโดด เพราะเรามีการวางกลยุทธ์เชิงรุกที่ดี นอกจาก “ช่อง 8” จะเสริมความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องให้กับรายการที่ได้รับความนิยม นำโดยกลุ่มกีฬา ข่าว ละคร และวาไรตี้ เพื่อเพิ่มเรตติ้งแบบก้าวกระโดด ให้สอดคล้องกับการปรับเพิ่มขึ้นค่าโฆษณาประมาณ 35% เมื่อเทียบกับปีก่อนแล้ว ฟาก “ไลฟ์สตาร์” ธุรกิจสุขภาพและความงามก็กำลังเข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวผลกำไร หลังจากที่ขยายการลงทุนและทำตลาดจริงจังสู่ปีที่ 3
ด้าน ธุรกิจสุขภาพและความงามทำรายได้ฟื้นตัวทะลุเป้าที่วางไว้ตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา เป็นผลมาจากเพิ่มเส้นการขายและโฆษณาผ่านสื่อในเครือมากขึ้น รวมถึงเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่รับสายคอลเซ็นเตอร์ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่สูงขึ้นให้ได้ครบถ้วนทั้งหมด ในอนาคตบริษัทฯ ได้วางแผนเพิ่มประเภทผลิตภัณฑ์ (SKU) ให้ครอบคลุมตามความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น รวมทั้งขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าผ่านโฮมช้อปปิ้ง และทำโปรโมชั่นร่วมกับร้านวัตสัน (Watsons) อีฟ แอนด์ บอย (EVEANDBOY) ท็อปส์ มาร์เก็ต (Tops Market) กูร์เมต์ มาร์เก็ต (Gourmet Market) และ โฮม เฟรช มาร์ท (Home Fresh Mart)
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) รุ่นที่ 3 หรือ “RS-W3” จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้นไม่เกิน 193,332,870 หน่วย อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับจากวันที่ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิจำนวนหุ้นที่ออก เพื่อรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิไม่เกิน 193,332,870 หุ้น มูลค่าตราไว้หุ้นละ 1 บาท คิดเป็น 19.14% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560
โดยจะจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้นในอัตราส่วนหุ้นสามัญเดิม 5 หุ้นต่อใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย ปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 19 เมษายน 2560 (Book Closing) อัตราการใช้สิทธิ 1 หน่วย สามารถซื้อหุ้นใหม่ได้ 1 หุ้น ราคาการใช้สิทธิ 12.50 บาท ระยะเวลาและกำหนดการใช้สิทธิวันทำการสุดท้ายของเดือนเมษายนและตุลาคม ขณะที่กำหนดวันที่สามารถใช้สิทธิครั้งแรกคือวันที่ 31 ตุลาคม 2560
“บริษัทฯ แจกวอร์แรนต์ให้ผู้ถือหุ้น 5 หุ้นต่อ 1 ซึ่งวอร์แรนต์จะมีอายุ 3 ปี ราคาใช้สิทธิ 12.50 บาท สามารถใช้สิทธิครั้งแรกได้ตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคมนี้ เรามองว่าภายหลังการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม หากมีการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่ออกในครั้งนี้ทั้งจำนวนแล้ว ก็จะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อด้านการลดลงของราคา (Price Dilution)” นายดามพ์ กล่าว