“ช่อง 8” ลุยธุรกิจดิจิตอลทีวีเต็มสูบโค้งท้าย รุกจับมือ “เจเอสแอล” เป็นพาร์ทเนอร์ร่วมผลิตรายการวาไรตี้ใหม่ลงจออีก 2 รายการ ขณะที่เตรียมผลิตเองอีก 5 รายการ มั่นใจสิ้นปีนี้ยังคงอยู่ในกลุ่มผู้นำของสถานีทีวีดิจิตอล
ลาดพร้าว-ดร.องอาจ สิงห์ลำพอง กรรมการผู้อำนวยการสายงานสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ดิจิตอลทีวี บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า รู้สึกพอใจกับเรตติ้งช่อง 8 ที่เติบโตต่อเนื่องตามแผนที่วางไว้ โดยมี “ละคร” จะเป็นหัวหอกสำคัญในการสร้างการรับรู้และจดจำให้แก่ช่องตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น และหลังจากนั้นก็มีการเติม “รายการกีฬา” มาช่วงชิงสายตาผู้ชม ได้แก่ “มวยไทยตัดเชือก", "HBO ศึกมวยโลกช่อง8", "UFC มวยกรง8เหลี่ยม" และ "8แม็กซ์ มวยไทย" ซึ่งล้วนประสบความสำเร็จคว้าเรตติ้งดีเหนือความหมาย ดังนั้น ในไตรมาสสุดท้ายจะดึง “รายการวาไรตี้” เข้ามาเสริมศักยภาพเร่งให้เรตติ้งยิ่งโตวันโตคืนยิ่งขึ้น
ล่าสุด จับมือกับ บริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด ผู้ผลิตคอนเทนต์มากประสบการณ์เป็นพันธมิตรทางธุรกิจด้านรับจ้างผลิต “รายการวาไรตี้” ใหม่อีก 2 รายการ ได้แก่ “ดาวประจำเมือง” รายการวาไรตี้เกมโชว์ที่จะเฟ้นหาหนุ่มหล่อสาวสวยในทุกๆ อาชีพ โดยมีฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ และเอมมี่ มรกต กิตติสาระ เป็นพิธีกร ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 13.40 / 22.00 น. และ “บิ๊กเฮง” รายการเกมโชว์ที่นำเสนอเกี่ยวกับดารากับความเชื่อ โดยมีไก่-สมพล ปิยะพงศ์สิริ เป็นพิธีกร ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 09.00 / 15.10 น. เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายทุกเพศทุกวัย ซึ่งจะออกอากาศครั้งแรกพร้อมกันในวันที่ 20 กันยายนนี้
“เรากับทางเจเอสแอลจะมีการร่วมงานกันในหลายส่วน อย่างในเฟสแรกจะเป็นในเรื่องของรายการวาไรตี้ก่อน เรามีรายการใหม่คือ บิ๊กเฮง ดาราท้าดวง และรายการดาวประจำเมือง นำเสนอรายการวาไรตี้รูปแบบใหม่ๆ ของเมืองไทย ซึ่งจะออกอากาศพร้อมกันทั้ง 2 รายการเลย ก็อยากให้ติดตาม เพราะเจเอสแอลมีความถนัดและเป็นมืออาชีพการผลิตอยู่แล้ว ขณะที่ช่อง 8 เข้าถึงและมีฐานผู้ชมเหนียวแน่นอยู่ทั่วประเทศ พอมาปลั๊กกันเป็นส่วนผสมที่ลงตัว ผมมั่นใจว่าการผนึกกำลังกันจะยิ่งประสบความสำเร็จเร็วขึ้น ส่วนเฟสต่อไปจะมีละครและละครซิทคอม รับรองมีงัดกลยุทธ์หมัดเด็ดๆ มาชกแน่นอน” ดร.องอาจ กล่าว
นอกจากนี้ ยังเตรียมผลิตรายการวาไรตี้ใหม่เองอีก 5 รายการ ได้แก่ ”จิ๋วซ่า” รายการเรียลลิตี้เด็กที่น่ารักสุดแสบซ่า และ "เอิ๊กโชว์" วาไรตี้ทอล์คโชว์ ที่เชิญทั้งเซเลบหรือดาราที่กำลังมีประเด็นเด็ดหรือตกเป็นกระแสมาร่วมรายการ ทำให้นับจากนี้จะได้เห็นสัดส่วนคอนเทนต์ละคร 20% ขณะที่รายการวาไรตี้ 50% รายการข่าว 25% และรายการกีฬา 5% โดยสัดส่วนการผลิตคอนเทนต์เองอยู่ที่ 90% และรับจ้างผลิตอยู่ที่ 10% คาดว่าการปรับเปลี่ยนทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น จะส่งผลให้มียอดผู้ชมที่เพิ่มขึ้นทันทีเฉลี่ยประมาณ 450,000 คนต่อนาที จากปัจจุบันมียอดผู้ชม 350,000 คนต่อนาที ถือเป็นตัวเลขที่พึงพอใจ เพราะสามารถรักษาเรตติ้งให้มีเสถียรภาพและอยู่ในกลุ่มผู้นำของสถานีดิจิตอลทีวีได้อย่างมั่นคง
ขณะที่ยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมโรดโชว์ “ช่อง 8 พบเพื่อน” กระหึ่มทั่วประเทศต่อไป เนื่องจากเห็นผลทันตาทำให้เข้าถึงและตอกย้ำผู้ชมแบรนด์ช่อง 8 ให้เป็นที่จดจำในวงกว้าง โดยช่วงโค้งท้ายก่อนสิ้นปีนี้มีแผนจะจัดขึ้นที่เซ็นทรัลพลาซา จังหวัดพิษณุโลก ในวันเสาร์ที่ 26 ก.ย., เดอะมอลล์ จังหวัดนครราชสีมา ในวันอาทิตย์ที่ 11 ต.ค., เซ็นทรัลพลาซา พระราม 2 กรุงเทพฯ ในวันอาทิตย์ที่ 1 พ.ย., เซ็นทรัลพลาซา จังหวัดระยอง ในวันเสาร์ที่ 14 พ.ย., และ เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต ในวันอาทิตย์ที่ 13 ธ.ค. อีกทั้งยังคงเดินหน้าติดตั้งป้ายสื่อโฆษณากลางแจ้ง “ใครๆ ก็ดูช่อง 8” ตามหัวเมืองใหญ่ต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้างต่อไป
สำหรับในช่วง 8 เดือนแรกที่ผ่านมาภาพรวมการแข่งขันอุตสาหกรรมดิจิตอลทีวี ถือว่ารุนแรง แต่ก็เป็นไปตามคาด เพราะทุกคนจำเป็นต้องผลักดันเรตติ้งของสถานีให้ขึ้นมาอยู่ในระดับต้นๆ เพื่อช่วงชิงเม็ดเงินโฆษณา โดยหากเปรียบเทียบส่วนแบ่งตลาดของดิจิตอลทีวีทั้งหมดก็ถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ หากพิจารณาเปรียบเทียบตัวเลขส่วนแบ่งทางการตลาดในแง่ของจำนวนคนดู จะเห็นว่าจากเดิมผู้นำตลาด 2 รายแรกมีส่วนแบ่งการตลาดรวมกันลดลงถึง 12% จาก 56% เหลือ 44% ในขณะที่ผู้เล่นอันดับ 3 และ 4 มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจาก 5% เป็น 11% โดยส่วนแบ่งการตลาดที่เหลืออีก 45% ต้องช่วงชิงกันในกลุ่มสถานีดิจิตอลที่เหลือถึง 20 สถานีและอีกหลายสิบสถานีของทีวีดาวเทียม จึงถือได้ว่าเป็นตลาดที่มีการแข่งขันเข้มข้นและรุนแรงมาก
ด้าน นายวัชระ แวววุฒินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด กล่าวว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสร่วมงานช่อง 8 เพราะเป็นสถานีที่เรตติ้งดีมีผู้ชมแฟนประจำทั่วประเทศแล้วสิ่งที่เราผลิตป้อนก็เป็นเรื่องที่บริษัทถนัดและทำได้ดีจึงมั่นใจว่าจะมีกระแสตอบรับดีแน่นอน ซึ่งในเฟสแรกบริษัทผลิตรายการวาไรตี้ให้ ได้แก่ “บิ๊กเฮง” หรือมีชื่อเรียกเต็มๆ ว่า “บิ๊กเฮง ดาราท้าดวง” เพราะฉะนั้นชื่อบอกอยู่แล้วว่าต้องมีดารามาร่วมรายการ เพื่อมาท้าทายว่าดวงของคุณชะตาชีวิต ฮวงจุ้ยของคุณจะดีจะร้าย อันนี้จะเป็นความสนุกสนานในเรื่องของดวงชะตาเข้ามาเกี่ยวข้อง อีกรายการคือ “ดาวประจำเมือง” อันนี้ชื่อดูหรูหราเป็นรายการหนึ่งที่จะมาสร้างปรากฏการณ์ในรายการทีวี เพราะเป็นรายการที่นำอาชีพที่เป็นที่รู้จัก แต่อาจไม่ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดในเรื่องการเห็นคุณค่าว่า เบื้องหลังของอาชีพเหล่านั้นเป็นมาอย่างไร แต่ในเบื้องหลังนั้นไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามทุกคน มีความสวย ทุกคนมีความหล่อ และเราก็จะหาผู้ที่เป็นดาวเด่นในอาชีพนั้นๆ มาประดับวงการของเมืองไทย
“จริงๆ แล้วตั้งแต่เปิดช่องติจิตอลทีวีขึ้นมาหลายๆ ช่อง ยกให้ช่อง8 เป็นช่องที่มาแรงมาก ยิ่งได้รายการวาไรตี้ที่มีเสน่ห์ มีรูปแบบของเนื้อหาของรายการหลากหลายที่เราผลิตให้ เรามีจุดแข็งด้วยประสบการณ์ของเจเอสเอลที่ทำงานตรงนี้มาตลอด 30 ปี เชื่อมั่นจะมาช่วยกันสร้างสรรค์รายการที่ดีและเหมาะสมกับทางช่อง 8 เพื่อเราจะได้เติบโตไปด้วยกันครับ” นายวัชระ กล่าว
“ช่อง 8” ลุยธุรกิจดิจิตอลทีวีเต็มสูบโค้งท้าย รุกจับมือ “เจเอสแอล” เป็นพาร์ทเนอร์ร่วมผลิตรายการวาไรตี้ใหม่ลงจออีก 2 รายการ ขณะที่เตรียมผลิตเองอีก 5 รายการ มั่นใจสิ้นปีนี้ยังคงอยู่ในกลุ่มผู้นำของสถานีทีวีดิจิตอล
ลาดพร้าว-ดร.องอาจ สิงห์ลำพอง กรรมการผู้อำนวยการสายงานสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ดิจิตอลทีวี บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า รู้สึกพอใจกับเรตติ้งช่อง 8 ที่เติบโตต่อเนื่องตามแผนที่วางไว้ โดยมี “ละคร” จะเป็นหัวหอกสำคัญในการสร้างการรับรู้และจดจำให้แก่ช่องตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น และหลังจากนั้นก็มีการเติม “รายการกีฬา” มาช่วงชิงสายตาผู้ชม ได้แก่ “มวยไทยตัดเชือก", "HBO ศึกมวยโลกช่อง8", "UFC มวยกรง8เหลี่ยม" และ "8แม็กซ์ มวยไทย" ซึ่งล้วนประสบความสำเร็จคว้าเรตติ้งดีเหนือความหมาย ดังนั้น ในไตรมาสสุดท้ายจะดึง “รายการวาไรตี้” เข้ามาเสริมศักยภาพเร่งให้เรตติ้งยิ่งโตวันโตคืนยิ่งขึ้น
ล่าสุด จับมือกับ บริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด ผู้ผลิตคอนเทนต์มากประสบการณ์เป็นพันธมิตรทางธุรกิจด้านรับจ้างผลิต “รายการวาไรตี้” ใหม่อีก 2 รายการ ได้แก่ “ดาวประจำเมือง” รายการวาไรตี้เกมโชว์ที่จะเฟ้นหาหนุ่มหล่อสาวสวยในทุกๆ อาชีพ โดยมีฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ และเอมมี่ มรกต กิตติสาระ เป็นพิธีกร ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 13.40 / 22.00 น. และ “บิ๊กเฮง” รายการเกมโชว์ที่นำเสนอเกี่ยวกับดารากับความเชื่อ โดยมีไก่-สมพล ปิยะพงศ์สิริ เป็นพิธีกร ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 09.00 / 15.10 น. เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายทุกเพศทุกวัย ซึ่งจะออกอากาศครั้งแรกพร้อมกันในวันที่ 20 กันยายนนี้
“เรากับทางเจเอสแอลจะมีการร่วมงานกันในหลายส่วน อย่างในเฟสแรกจะเป็นในเรื่องของรายการวาไรตี้ก่อน เรามีรายการใหม่คือ บิ๊กเฮง ดาราท้าดวง และรายการดาวประจำเมือง นำเสนอรายการวาไรตี้รูปแบบใหม่ๆ ของเมืองไทย ซึ่งจะออกอากาศพร้อมกันทั้ง 2 รายการเลย ก็อยากให้ติดตาม เพราะเจเอสแอลมีความถนัดและเป็นมืออาชีพการผลิตอยู่แล้ว ขณะที่ช่อง 8 เข้าถึงและมีฐานผู้ชมเหนียวแน่นอยู่ทั่วประเทศ พอมาปลั๊กกันเป็นส่วนผสมที่ลงตัว ผมมั่นใจว่าการผนึกกำลังกันจะยิ่งประสบความสำเร็จเร็วขึ้น ส่วนเฟสต่อไปจะมีละครและละครซิทคอม รับรองมีงัดกลยุทธ์หมัดเด็ดๆ มาชกแน่นอน” ดร.องอาจ กล่าว
นอกจากนี้ ยังเตรียมผลิตรายการวาไรตี้ใหม่เองอีก 5 รายการ ได้แก่ ”จิ๋วซ่า” รายการเรียลลิตี้เด็กที่น่ารักสุดแสบซ่า และ "เอิ๊กโชว์" วาไรตี้ทอล์คโชว์ ที่เชิญทั้งเซเลบหรือดาราที่กำลังมีประเด็นเด็ดหรือตกเป็นกระแสมาร่วมรายการ ทำให้นับจากนี้จะได้เห็นสัดส่วนคอนเทนต์ละคร 20% ขณะที่รายการวาไรตี้ 50% รายการข่าว 25% และรายการกีฬา 5% โดยสัดส่วนการผลิตคอนเทนต์เองอยู่ที่ 90% และรับจ้างผลิตอยู่ที่ 10% คาดว่าการปรับเปลี่ยนทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น จะส่งผลให้มียอดผู้ชมที่เพิ่มขึ้นทันทีเฉลี่ยประมาณ 450,000 คนต่อนาที จากปัจจุบันมียอดผู้ชม 350,000 คนต่อนาที ถือเป็นตัวเลขที่พึงพอใจ เพราะสามารถรักษาเรตติ้งให้มีเสถียรภาพและอยู่ในกลุ่มผู้นำของสถานีดิจิตอลทีวีได้อย่างมั่นคง
ขณะที่ยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมโรดโชว์ “ช่อง 8 พบเพื่อน” กระหึ่มทั่วประเทศต่อไป เนื่องจากเห็นผลทันตาทำให้เข้าถึงและตอกย้ำผู้ชมแบรนด์ช่อง 8 ให้เป็นที่จดจำในวงกว้าง โดยช่วงโค้งท้ายก่อนสิ้นปีนี้มีแผนจะจัดขึ้นที่เซ็นทรัลพลาซา จังหวัดพิษณุโลก ในวันเสาร์ที่ 26 ก.ย., เดอะมอลล์ จังหวัดนครราชสีมา ในวันอาทิตย์ที่ 11 ต.ค., เซ็นทรัลพลาซา พระราม 2 กรุงเทพฯ ในวันอาทิตย์ที่ 1 พ.ย., เซ็นทรัลพลาซา จังหวัดระยอง ในวันเสาร์ที่ 14 พ.ย., และ เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต ในวันอาทิตย์ที่ 13 ธ.ค. อีกทั้งยังคงเดินหน้าติดตั้งป้ายสื่อโฆษณากลางแจ้ง “ใครๆ ก็ดูช่อง 8” ตามหัวเมืองใหญ่ต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้างต่อไป
สำหรับในช่วง 8 เดือนแรกที่ผ่านมาภาพรวมการแข่งขันอุตสาหกรรมดิจิตอลทีวี ถือว่ารุนแรง แต่ก็เป็นไปตามคาด เพราะทุกคนจำเป็นต้องผลักดันเรตติ้งของสถานีให้ขึ้นมาอยู่ในระดับต้นๆ เพื่อช่วงชิงเม็ดเงินโฆษณา โดยหากเปรียบเทียบส่วนแบ่งตลาดของดิจิตอลทีวีทั้งหมดก็ถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ หากพิจารณาเปรียบเทียบตัวเลขส่วนแบ่งทางการตลาดในแง่ของจำนวนคนดู จะเห็นว่าจากเดิมผู้นำตลาด 2 รายแรกมีส่วนแบ่งการตลาดรวมกันลดลงถึง 12% จาก 56% เหลือ 44% ในขณะที่ผู้เล่นอันดับ 3 และ 4 มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจาก 5% เป็น 11% โดยส่วนแบ่งการตลาดที่เหลืออีก 45% ต้องช่วงชิงกันในกลุ่มสถานีดิจิตอลที่เหลือถึง 20 สถานีและอีกหลายสิบสถานีของทีวีดาวเทียม จึงถือได้ว่าเป็นตลาดที่มีการแข่งขันเข้มข้นและรุนแรงมาก
ด้าน นายวัชระ แวววุฒินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด กล่าวว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสร่วมงานช่อง 8 เพราะเป็นสถานีที่เรตติ้งดีมีผู้ชมแฟนประจำทั่วประเทศแล้วสิ่งที่เราผลิตป้อนก็เป็นเรื่องที่บริษัทถนัดและทำได้ดีจึงมั่นใจว่าจะมีกระแสตอบรับดีแน่นอน ซึ่งในเฟสแรกบริษัทผลิตรายการวาไรตี้ให้ ได้แก่ “บิ๊กเฮง” หรือมีชื่อเรียกเต็มๆ ว่า “บิ๊กเฮง ดาราท้าดวง” เพราะฉะนั้นชื่อบอกอยู่แล้วว่าต้องมีดารามาร่วมรายการ เพื่อมาท้าทายว่าดวงของคุณชะตาชีวิต ฮวงจุ้ยของคุณจะดีจะร้าย อันนี้จะเป็นความสนุกสนานในเรื่องของดวงชะตาเข้ามาเกี่ยวข้อง อีกรายการคือ “ดาวประจำเมือง” อันนี้ชื่อดูหรูหราเป็นรายการหนึ่งที่จะมาสร้างปรากฏการณ์ในรายการทีวี เพราะเป็นรายการที่นำอาชีพที่เป็นที่รู้จัก แต่อาจไม่ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดในเรื่องการเห็นคุณค่าว่า เบื้องหลังของอาชีพเหล่านั้นเป็นมาอย่างไร แต่ในเบื้องหลังนั้นไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามทุกคน มีความสวย ทุกคนมีความหล่อ และเราก็จะหาผู้ที่เป็นดาวเด่นในอาชีพนั้นๆ มาประดับวงการของเมืองไทย
“จริงๆ แล้วตั้งแต่เปิดช่องติจิตอลทีวีขึ้นมาหลายๆ ช่อง ยกให้ช่อง8 เป็นช่องที่มาแรงมาก ยิ่งได้รายการวาไรตี้ที่มีเสน่ห์ มีรูปแบบของเนื้อหาของรายการหลากหลายที่เราผลิตให้ เรามีจุดแข็งด้วยประสบการณ์ของเจเอสเอลที่ทำงานตรงนี้มาตลอด 30 ปี เชื่อมั่นจะมาช่วยกันสร้างสรรค์รายการที่ดีและเหมาะสมกับทางช่อง 8 เพื่อเราจะได้เติบโตไปด้วยกันครับ” นายวัชระ กล่าว