"ผู้บริหารคูลลิซึ่ม" ชี้วิทยุยังเป็นสื่อที่เข้าถึงคนทำงานได้ดีที่สุด เผยใช้กลยุทธ์ 360 องศา Engagement บุกเต็มสูบ ใจป้ำทุ่มงบลงทุน 20 ล้านบาทรองรับยุคดิจิตอล ขณะที่อัดฉีดงบทำการตลาดกว่า 100 ล้านบาทลุยกิจกรรมทั้งปี พร้อมเล็งผนึกพันธมิตรธุรกิจเพลงจัดกิจกรรม COOLISM Camp คืนกำไรสู่สังคมเขย่าวงการหน้าปัดวิทยุ มั่นใจรักษาแชมป์คลื่นเพลงเพราะต่อเนื่อง 12 ปีซ้อน คาดสิ้นปีนี้โกยรายได้ 690 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อน
คุณสุธี ฉัตรรัตนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท คูลลิซึ่ม จำกัด ผู้บริหารคลื่นคูล ฟาเรนไฮต์ 93 และคูล เซลเซียส 91.5 กล่าวว่า แม้การเกิดขึ้นของสื่อใหม่ๆ จะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของสื่อดั้งเดิมแต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อสื่อวิทยุ เนื่องจากการเกิดขึ้นของอินเตอร์เน็ตกลับเพิ่มประสิทธิภาพให้วิทยุยังเป็นเพียงสื่อเดียวในขณะนี้ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มคนทำงานในช่วงเวลาทำงานได้ดีที่สุด จากพฤติกรรมการรับฟังเดิมที่สามารถรับฟังจากวิทยุเท่านั้น ส่วนปัจจุบันสามารถเลือกรับฟังผ่านช่องทางใหม่ๆ ได้หลากหลายมากขึ้น อาทิเช่น ทางสมาร์ทโฟนผ่านแอพพลิเคชั่น ทางคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บไซต์ เป็นต้น ดังนั้น ทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ หลังจากที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีจากการรีแบรนด์เป็นคูลลิซึ่มในปีที่ผ่านมา คือ จะยังคงปรับตัวให้สอดรับกับภาวะตลาดข้างต้นตลอดเวลาเช่นเดียวกับปีก่อนๆ ซึ่งถือเป็นแนวทางที่ขานรับกับบริษัทฯ แม่ คือ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ที่เพิ่งประกาศก้าวสู่ Media Revolutionist 2014 ผู้ปฏิวัติวงการสื่อ
โดยบริษัทฯ เตรียมใช้งบทำการตลาดประมาณกว่า 100 ล้านบาท เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์คูลลิซึ่มกับฐานผู้ฟังกลุ่มเดิมให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็เพื่อขยายฐานไปยังผู้ฟังกลุ่มใหม่ให้เข้ามาเป็นสาวกของแบรนด์คูลลิซึ่ม ภายใต้กลยุทธ์ 360 องศา Engagement ซึ่งบริษัทฯ เตรียมใช้งบลงทุนประมาณ 20 ล้านบาท สำหรับพัฒนาเทคโนโลยีการกระจายเสียงระบบออนไลน์ต่อเนื่องจากปีก่อน โดยเฉพาะช่องทางรับฟังสมาร์ทโฟนผ่านแอพพลิเคชั่นและคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงสำหรับสร้างสตูดิโอออกอากาศใหม่ เพื่อรองรับการเข้าสู่ยุคดิจิตอลเต็มตัวเนื่องจากปีนี้จะมีการออกอากาศทีวีดิจิตอลเป็นครั้งแรกในเมืองไทย
สำหรับกลยุทธ์การทำตลาดของคลื่นคูล ฟาเรนไฮต์ 93 จะใช้กลยุทธ์ CRM เพื่อรักษาความสัมพันธ์กับผู้ฟังและเป็นผู้นำตลาดคลื่นเพลงเพราะอันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 โดยยังคงใช้กิจกรรมทางการตลาดที่เป็นสัญลักษณ์โดดเด่นของคลื่นเป็นตัวขับเคลื่อน อาทิเช่น การจัดกิจกรรมคูล เอ้าท์ติ้ง ที่ยกพลชาวออฟฟิศไปเริงร่ากับสถานที่สุดฮิพกับคูลเจคนโปรด, กิจกรรมอิ๊งค์ อีท ออล อะราวด์ที่ได้นักชิมลิ้นทองคำอย่างอิ๊งค์ ม.ล.ภาสันต์ สวัสดิวัตน์ อาสาพาตะลอนทัวร์ไปชิมความอร่อยกับอาหารหลากหลาย, กิจกรรมคูล พรีวิเลจ ที่มอบส่วนลดพิเศษจากพันธมิตรทางธุรกิจชั้นนำมากมาย เพื่อความสุขมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ฟัง เป็นต้น
ส่วนกลยุทธ์การทำตลาดของคลื่นคูล เซลเซียส 91.5 เนื่องจากยังเป็นคลื่นน้องใหม่จึงเลือกใช้กลยุทธ์การสร้าง Brand Awareness ผ่านแบรนด์สีส้มซึ่งเป็นสีประจำคลื่น เพื่อมุ่งสร้างการรู้จักและทำให้เกิดการจดจำในวงกว้างมากยิ่งขึ้น โดยเตรียมจัดกิจกรรม COOL Celsius Day เดินสายโรดโชว์ไปยังอาคารสำนักงานต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ ทุกวันพฤหัสบดี เพื่อปลุกพลังให้แก่คนทำงานที่อาจจะเริ่มเหนื่อยล้าหลังจากที่ทำงานติดต่อกันมาถึง 4 วันก่อนจะถึงวันศุกร์วันสุดท้ายของสัปดาห์ รวมถึงในช่วงปลายปีนี้เตรียมจัดอีเวนต์ใหญ่ชื่อ COOL Celsius Christmas Fest ภายใต้ธีมคริสต์มาสสีส้มครั้งแรกของโลก
ทั้งนี้ ตั้งเป้าสิ้นปีนี้มีรายได้อยู่ที่ 690 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 20% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ตามเป้าที่วางไว้ 500 ล้านบาท โดยมีปัจจัยเติบโตมาจากความแข็งแกร่งของแบรนด์คูล ฟาเรนไฮต์ 93 ที่สามารถครองความเป็นผู้นำตลาดคลื่นเพลงเพราะอันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 ทำให้ปีนี้มีการปรับอัตราค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นอีก 20% จากปีก่อน ขณะที่แบรนด์คูล เซลเซียส 91.5 เป็นที่รู้จักและจดจำในวงกว้างมากขึ้นจึงน่าจะเห็นผลเติบโตของการขายโฆษณาในปีนี้นั่นเอง
นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมจับมือกับค่ายเพลงซึ่งเป็นพันธมิตรร่วมในกลุ่มธุรกิจด้านเสียงทั้งค่ายเพลงไทยและเพลงสากล เพื่อจัดกิจกรรม COOLISM Camp ในรูปแบบเวิร์คช้อปผสมความบันเทิง โดยมุ่งถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ในการบริหารธุรกิจสื่อวิทยุให้ประสบความสำเร็จในยุคดิจิตอล ให้แก่นิสิตนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ คณะวารสารศาสตร์ รวมถึงคณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาสื่อสารมวลชน ตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ได้เรียนรู้และสัมผัสประสบการณ์โดยตรง ในลักษณะเวิร์คช้อปจากเหล่าบุคลากรมืออาชีพที่ไม่มีสอนในห้องเรียน ถือเป็นการจัดกิจกรรมที่นอกจากเพื่อคืนกำไรสู่สังคมแล้ว ยังสามารถช่วยขยายฐานไปยังผู้ฟังกลุ่มใหม่ที่เป็นนิสิตนักศึกษา จากปัจจุบันบริษัทฯ มีฐานผู้ฟังที่แข็งแกร่งในกลุ่มคนทำงานอยู่แล้ว
Attachments