“อาร์เอส” ชักธงรบนำ “ช่อง 8 ฟรีทีวี วาไรตี้ 24 ชั่วโมง” ที่ครองเรตติ้งอับดับหนึ่งแซทเทลไลท์ทีวี ต่อยอดออนแอร์ทาง “ดิจิตอลฟรีทีวี ช่องเอสดี” ที่สมบูรณ์แบบที่สุดของประเทศ คาดดีเดย์ภายในเดือนเม.ย. 57 ระบุอัดงบ 300 ล้านบาท งัดกลยุทธ์รุกเสริมความแข็งแกร่งทั้ง 3 ด้าน “ละคร-วาไรตี้-ข่าว” มุ่งผลิตคอนเทนต์ครบทุกแนว หวังครองใจผู้ชมทุกกลุ่มเป้าหมายกระชากเรตติ้งพุ่งกระฉูด ยันกำไรตั้งแต่ปีแรกและไม่มีแผนเพิ่มทุน เพราะฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง
ลาดพร้าว-นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกรณีที่บริษัท อาร์.เอส.เทเลวิชั่น จำกัด ในเครืออาร์เอส ได้ชนะการประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ หมวดหมู่ทั่วไปความคมชัดปกติ (SD) เป็นอันดับ 5 ในราคา 2,265 ล้านบาทว่า ขณะนี้บริษัทฯ มีความพร้อมเป็นอย่างยิ่งที่จะนำ “ช่อง 8 ฟรีทีวี วาไรตี้ 24 ชั่วโมง” มาต่อยอดออกอากาศเป็นดิจิตอลฟรีทีวีภายในเดือนเมษายน 2557
สาเหตุที่เลือกช่อง 8 ฟรีทีวี วาไรตี้ 24 ชั่วโมง มาออกอากาศทางดิจิตอลฟรีทีวี ระบบเอสดี เนื่องจากมั่นใจในศักยภาพของช่อง ซึ่งปัจจุบันครองเรตติ้งอันดับ 1 ทางแซทเทลไลท์ทีวี ที่มีผู้ชมทั้งประเทศให้การตอบรับมากที่สุด เพราะมีความโดดเด่นทางด้านความบันเทิงและคุณภาพครบทุกรส ไม่ว่าจะเป็นละครผลิตใหม่รสแซ่บ, รายการวาไรตี้, รายการข่าว, ภาพยนตร์ชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ อีกทั้งมีนักแสดงชั้นนำและพิธีกรมืออาชีพที่ไม่ได้จำกัดเฉพาะในค่ายอาร์เอสให้เกียรติมาร่วมมอบความบันเทิงตลอด 24 ชั่วโมง ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้พัฒนาระบบการส่งสัญญาณด้วยเทคโนโลยีระบบความคมชัดสูง (HD) เพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชมเต็มอิ่มมากยิ่งขึ้น
ล่าสุด เตรียมทุ่มงบลงทุน 300 ล้านบาท เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับ “ช่อง 8 ฟรีทีวี วาไรตี้ 24 ชั่วโมง” ขยับขึ้นเป็นดิจิตอลฟรีทีวี ระบบเอสดีที่สมบูรณ์แบบที่สุดในประเทศไทย โดยขณะนี้กำลังปรับเปลี่ยนผังรายการใหม่ให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้ชมทุกเพศทุกวัยมากที่สุด โดยจะให้ความสำคัญกับ 3 คอนเทนต์หลักที่เข้าถึงผู้ชมครอบคลุมทุกเพศทุกวัย อันได้แก่ ละคร รายการวาไรตี้ และรายการข่าว
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นจะเพิ่มจำนวนการผลิตละครใหม่เป็น 2 เรื่องต่อสัปดาห์ จากปัจจุบัน 1 เรื่องต่อสัปดาห์ โดยยังคงผลิตละครครบทุกรสทุกแนว ทั้งดราม่า แอคชั่น พีเรียด และผี ขณะเดียวกันจะเพิ่มรายการวาไรตี้ให้หลากหลายยิ่งขึ้น เพื่อขยายฐานผู้ชมไปยังกลุ่มผู้ชายและกลุ่มเด็ก จากปัจจุบันมีฐานผู้ชมแข็งแกร่งในกลุ่มผู้หญิง และจะเพิ่มทีมผลิตข่าวครอบคลุมทุกประเภท ทั้งข่าวการเมือง ข่าวเศรษฐกิจ ข่าวบันเทิง ข่าวสังคม ข่าวกีฬา และข่าวอื่นๆ รวมถึงจะเพิ่มชั่วโมงข่าวมากขึ้นอีกประมาณ 50% หรือเพิ่มเป็นประมาณ 6-7 ชั่วโมงต่อวัน ได้แก่ ข่าวช่วงเช้า ข่าวช่วงเที่ยง ข่าวช่วงเย็น ข่าวช่วงดึก และข่าวทุกต้นชั่วโมง
อย่างไรก็ดี มั่นใจว่า “ช่อง 8 ดิจิตอลฟรีทีวี” จะประสบความสำเร็จทั้งในแง่ของเรตติ้งผู้ชมที่การันตีแล้วจากการเป็นอันดับ 1 ในแซทเทลไลท์ทีวีที่มีผู้ชมมากที่สุดอย่างต่อเนื่อง และในแง่รายได้ปีนี้ของช่อง 8 ตั้งเป้าไว้ที่ 850 ล้านบาท จากกลยุทธ์การทำสัญญาระยะยาวกับลูกค้า โดยลูกค้าที่ทำสัญญาระยะยาวกับช่อง 8 ตั้งแต่ต้นปีจะได้ประโยชน์จากการเป็นดิจิตอลฟรีทีวีด้วยอัตราค่าโฆษณาราคาเดิม ส่วนลูกค้าใหม่จะมีการขึ้นราคาตามสถานการณ์ ซึ่งจากเป้ารายได้ข้างต้นที่วางไว้ 850 ล้านบาทในปีนี้จะส่งผลให้ช่อง 8 ดิจิตอลฟรีทีวี ทำกำไรได้ตั้งแต่ปีแรกที่มีการออกอากาศ
นอกจากนี้ นายสุรชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ไม่มีแผนการเพิ่มทุนเพื่อรองรับการก้าวสู่ธุรกิจดิจิตอลฟรีทีวี เนื่องจากบริษัทฯ มีฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง และได้วางแผนการบริหารต้นทุนไว้เป็นอย่างดี ทำให้ไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุนก็มีความสามารถในการชำระเงินค่าประมูลตามหลักเกณฑ์ที่ กสทช.กำหนดไว้ได้
“จากศักยภาพและความพร้อมในทุกด้านของช่อง 8 ซึ่งมีปัจจัยสำคัญของความสำเร็จในการทำธุรกิจดิจิตอลฟรีทีวีครบถ้วนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น “ทีมงาน” เบื้องหน้าเบื้องหลังระดับมืออาชีพ “คอนเทนต์” ที่หลากหลายตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทุกกลุ่มผู้ชม และ “ฐานะทางการเงิน” ที่แข็งแกร่ง เราจึงเชื่อมั่นว่าช่อง 8 จะประสบความสำเร็จเป็นดิจิตอลฟรีทีวีที่มีเรตติ้งยอดนิยม และทำรายได้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้” นายสุรชัย กล่าวทิ้งท้าย