"อาร์เอส" 9 เดือนกวาดกำไรมากกว่า 300 ล้าน สวนกระแสเศรษฐกิจซบเซา ไตรมาส 3 กำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ MSCI เลือกหุ้น RS เข้าคำนวณดัชนี

Backพฤศจิกายน 14, 2556

“อาร์เอส” เผยผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน ปี 2556 ทำกำไรสุทธิ 302 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 33% โดยในไตรมาสที่ 3 ทำกำไร 124 ล้านบาท ถือเป็นกำไรต่อไตรมาสที่สูงที่สุด (หากไม่รวมไตรมาสที่มีโครงการฟุตบอลโลก) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 56% จากรายได้รวม 922 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากธุรกิจสื่อที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยไตรมาส 3 ธุรกิจสื่อทำรายได้ 573 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 80% MSCI ประกาศเพิ่มหุ้น RS เข้าคำนวณดัชนี MSCI Global Small Cap ดีเดย์ 26 พฤศจิกายนนี้

ลาดพร้าว – นายดามพ์ นานา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 ปี 2556 มีรายได้ 922 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 15% และกำไรสุทธิ 124 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 56% โดยธุรกิจสื่อสามารถทำรายได้ 573 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 80% จากการใช้พื้นที่โฆษณาที่เพิ่มขึ้น (Utilization) ซึ่งสอดคล้องกับความนิยมในการรับชมรับฟังหรือเรทติ้งที่เพิ่มขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง ทั้งช่องทีวีดาวเทียมและคลื่นวิทยุ

นำโดยช่องทีวีดาวเทียมอย่าง “ช่อง 8” ที่เพิ่งจะเปิดตัวละครฟอร์มยิ่งใหญ่อย่าง “ผู้ชนะสิบทิศ” ละครอิงประวัติศาสตร์ ที่บทประพันธ์ได้รับความนิยมอย่างสูง และถูกนำไปดัดแปลงเป็นละครเวที ละครโทรทัศน์ และ ภาพยนตร์หลายครั้ง สำหรับ “ช่องสตาร์แม็กซ์” ที่มีรายการทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ อย่าง “คนดังนั่งเคลียร์” ก็ได้เปิดตัวเกมโชว์ใหม่อย่าง “เกมดาราชะลาล่า” เข้ามาเพิ่มสีสันให้กับช่อง ส่วน“ช่องสบายดี ทีวี” ที่มีเพลงฮิตจากค่ายอาร์สยามมาเปิดให้เพลิดเพลินกันทั้งวันทั้งคืน “ช่อง YOU Channel” ที่สามารถรับชม MV จากค่ายในเครืออาร์เอสได้ก่อนใคร และ “ช่อง Sun Channel” ที่มีทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลระดับโลกอย่าง “ลาลีกา สเปน” มาให้ผู้ชมได้มันส์จุใจ นอกจากนี้อาร์เอสยังได้เปิดตัวช่องทีวีดาวเทียมน้องใหม่อย่าง “Shop 77” ด้วยคอนเซ็ปต์ “Shopping TV ที่เดียวที่คุณวางใจ” เจาะกลุ่มเป้าหมายแม่บ้านและบุคคลที่ชื่นชอบการซื้อสินค้าโดยตรงส่งถึงบ้าน (Home Shopping) ซึ่งหลังจากเปิดตัวก็ได้รับการตอบรับจากเจ้าของสินค้าเป็นอย่างดี

ในส่วนธุรกิจวิทยุ ก็ได้เตรียมแผนรุกตลาดวิทยุยุคใหม่อย่างต่อเนื่อง ด้วยการพัฒนาแอพพลิเคชัน และเทคโนโลยีในการรับฟังเพิ่มขึ้น อันเนื่องมาจากการเติบโตของตลาดออนไลน์และสมาร์ทโฟน ทำให้พฤติกรรมการรับฟังวิทยุของผู้ฟังเปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ยังมีแผนในการปรับอัตราค่าโฆษณาของคลื่น Cool Fahrenheit 93 เพิ่มขึ้นอีก 20% ซึ่งเป็นไปอย่างสอดคล้องกับเรทติ้งของคลื่น

ธุรกิจโชว์บิซทำรายได้ 142 ล้านบาท โดยมีคอนเสิร์ตใหญ่อย่าง “Short Charge Shock Rock Concert” ที่อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี และอีเว้นท์ต่างๆที่ตอบโจทย์ทางการตลาดของลูกค้ามากมาย อาทิ “สบายดีสัญจร ปี 4” และ “คอนเสิร์ตไทยประกันชีวิตสัญจร” เป็นต้น

ธุรกิจเพลงทำรายได้ 194 ล้านบาท ลดลง 10% จากปีก่อนหน้า จากการลดลงของรายได้ดาวน์โหลดเพลง อย่างไรก็ดีการให้บริการ Music Streaming ผ่าน Application “Deezer” บนโครงข่ายโทรศัพท์มือถือของ Dtac ที่เริ่มให้บริการตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว มีแนวโน้มการเติบโตของรายได้สูงขึ้นในไตรมาสนี้ จากการเพิ่มขึ้นของจำนวนสมาชิก ความนิยมของรูปแบบบริการ และการเติบโตของกลุ่มผู้ใช้โทรศัพท์ในระบบ3G

จากผลประกอบการที่แข็งแกร่งและการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้หุ้น RS ได้รับเลือกเข้าสู่ MSCI Global Small Cap Indices ที่จะมีผลในวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ผู้ลงทุนต่างประเทศสนใจเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้น RS มากยิ่งขึ้น และยังสะท้อนให้เห็นว่าอาร์เอสเป็นบริษัทฯที่มีคุณภาพ และมีสภาพคล่องที่ดี

“สำหรับทิศทางการดำเนินงานของอาร์เอสในไตรมาส 4 เรายังเน้นหนักในการให้ความสำคัญกับธุรกิจสื่อ โดยจะปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสภาพตลาดและสภาพการแข่งขันของธุรกิจ ซึ่งถึงแม้ปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจยังคงผันผวน โดยเฉพาะผลกระทบด้านลบจากความไม่แน่นอนในเสถียรภาพทางการเมือง แต่ไตรมาสสุดท้ายเข้าสู่เทศกาลจับจ่ายใช้สอยและวันหยุดยาวต่อเนื่อง จึงคาดว่ากำลังซื้อโดยรวมจะไม่ลดลง ประกอบกับความแข็งแรงของสื่อในเครืออาร์เอส จะทำให้รายได้ธุรกิจสื่อในไตรมาส 4 ยังคงเป็นไปตามประมาณการที่วางไว้ ด้านธุรกิจโชวบิซมีคอนเสิร์ตเอาใจวัยรุ่นอย่าง Kamikaze’ K Fight Concert ที่พารากอน ฮอลล์ ซึ่งได้รับการตอบรับจากแฟนเพลงเป็นอย่างดี สำหรับธุรกิจเพลงจะมีโปรเจ็คใหม่จากค่ายอาร์สยามที่เป็นช่องทางธุรกิจสู่ตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC เร็วๆนี้” นายดามพ์กล่าวทิ้งท้าย