อาร์สยาม บริหารสายงานเพลง คู่ แซทเทลไลท์ ทีวี ครบเครื่อง ครบรส ครบวงจร พร้อมจับมือโอเปอเรเตอร์ ขยายฐานผู้ฟังในต่างประเทศ

Backกุมภาพันธ์ 22, 2555

อาร์สยาม ค่ายเพลงลูกทุ่งอันดับ 1 ของเมืองไทยในเครืออาร์เอส ประกาศความสำเร็จยาวนานต่อเนื่อง 2012 มุ่งปั๊มรายได้ขยายฐานผู้ฟัง เชื่อลูกทุ่งไทยยังเติบโต พร้อมจับมือโอเปอร์เรเตอร์ลาว หวังขยายฐานแฟนเพลงอาร์สยามในต่างประเทศ เดินหน้าต่อยอดธุรกิจคอนเทนต์คู่มีเดียบริหารช่องสบายดี ทีวี โกยเรตติ้งช่องเพลงอันดับ 1 มั่นใจคอนเทนต์ดี มีคุณภาพ หนุนช่องสบายดี เรตติ้งพุ่ง

ลาดพร้าว - นายศุภชัย นิลวรรณ รองกรรมการผู้อำนายการ สายงานเพลงลูกทุ่ง / ธุรกิจเพลง และกรรมการผู้จัดการค่ายเพลงอาร์สยาม บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าอาร์สยามดำเนินธุรกิจค่ายเพลงลูกทุ่งภายใต้กลยุทธ์ One Stop Service Music Marketing เน้นบริหารรายได้แบบ 360 องศา โดยอาศัยจุดแข็งของศิลปินคุณภาพที่มีอยู่กว่า 100 ชีวิต ที่ครอบคลุมทั้งแนวเพลงลูกทุ่งแบบดั้งเดิม ได้แก่ หนู มิเตอร์, กุ้ง สุธิราช ลูกทุ่งเพื่อชีวิต เช่น หลวงไก่, บ่าววี, บิว กัลยาณี ลูกทุ่งอีสาน เช่น จินตหรา พูนลาภ, สนุ๊ก สิงห์มาตร และลูกทุ่งป๊อปสมัยใหม่ เช่น บลูเบอร์รี่, กระแต-กระต่าย, ใบเตย ฯลฯ ที่สลับผลัดเปลี่ยนกันส่งผลงานเพลงคุณภาพออกมาสร้างสีสันให้กับตลาดเพลงลูกทุ่งอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังครอบคลุมแนวเพลงทั่วทุกภูมิภาค ครองใจกลุ่มผู้ฟังทุกเพศทุกวัย สร้างความพอใจให้ลูกค้าในรูปแบบที่หลากหลาย พร้อมขยายฐานแฟนเพลงลูกทุ่งอาร์สยามในประเทศลาว หวังเปิดตลาดการยอมรับในต่างประเทศ

สำหรับภาพรวมของตลาดเพลงลูกทุ่งในปัจจุบันมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 1,500 ล้านบาท โดยอาร์สยามครองส่วนแบ่งตลาดเพลงลูกทุ่งอยู่ที่ 40 - 45 % และมีฐานผู้ฟังที่เหนียวแน่นทั้งในเขต กทม. และ ต่างจังหวัด โดยสิ่งสำคัญที่ทำให้ค่ายเพลงอาร์สยามประสบความสำเร็จจนก้าวขึ้นแท่นค่ายเพลงลูกทุ่งอันดับ 1 ตลอดมาก็คือ ความหลากหลายและคุณภาพของผลงานที่ได้รับการยอมรับ ในปีที่ผ่านมาอาร์สยามทำรายได้อยู่ที่ประมาณ 470 ล้านบาท มาจากธุรกิจเพลงและดิจิตอล 400 ล้านบาทและธุรกิจโชว์บิซ 70 ล้านบาท ขณะเดียวกันอาร์สยามก็เดินหน้าบริหารแซทเทลไลท์ ทีวี ช่อง "สบายดี ทีวี" ภายใต้แนวคิดเพลงไทยหลากสไตล์ ดูสบายทั้งครอบครัว ซึ่งสนับสนุนธุรกิจเพลงของอาร์สยาม ให้เข้าถึงจนได้รับผลการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ชมทั่วประเทศ อีกทั้งยังสามารถครองแชมป์เรตติ้งอันดับ 1 ในกลุ่มเพลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมาช่องสบายดี ทีวี ทำรายได้อยู่ที่ประมาณ 120 ล้านบาท ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากทั้งในแง่ของรายได้และจำนวนผู้ชม

โดยกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจปี 2012 อาร์สยามมุ่งพัฒนาธุกิจเพลงที่ครอบคลุมทั้งผลงานเพลงที่มีคุณภาพ งานโชว์ทั้งในและต่างประเทศ เสริมทัพด้วยธุรกิจแซทเทลไลท์ ทีวี ที่นำเสนอ MV เพลงของศิลปินที่คุณชื่นชอบ และรายการบันเทิงที่ดูได้ทั้งครอบครัว อีกทั้งยังเสริมด้วยกิจกรรมความบันเทิงที่อัดแน่นตลอดทั้งปี อย่างเช่น คอนเสิร์ต สบายดี สัญจร ซึ่งจัดขึ้นถึง 15 ครั้งภายใน 1 ปี และจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 แล้ว ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากในปีที่ผ่านมา ไม่เพียงเท่านั้นอาร์สยามกำลังรุกตลาดเพลงลูกทุ่งในลาว ด้วยการขายดาวน์โหลดเพลงลูกทุ่งอาร์สยามผ่านการใช้งานระบบโทรศัพท์มือถือ ทั้ง 4 ระบบของลาว ซึ่งก็คาดว่าจะได้รับการตอบรับจากชาวลาวเป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถดึงผู้ชมในประเทศลาวให้มาติดตามดูช่องสบายดี ทีวี เนื่องจากนิยมชมชอบผลงานของศิลปินลูกทุ่งในค่ายอาร์สยามอีกด้วย

ปี 2012 กลุ่มอาร์สยามตั้งเป้ารายรวมไว้ที่ประมาณ 750 ล้านบาท คิดเป็น 23 เปอร์เซ็นต์ ของรายได้ทั้งกลุ่มอาร์เอส แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจเพลงและดิจิตอล 450 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 12.5 เปอร์เซ็นต์ และรายได้จากช่องสบายดี ทีวี 200 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 66.7 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่งานโชว์หรือคอนเสิร์ตทั้งในและต่างประเทศก็มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง หวังทำรายได้ 100 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 42.8 เปอร์เซ็นต์

" ผมเชื่อว่าธุรกิจเพลงลูกทุ่งจะยังมีโอกาสเติบโตอีกมากทั้งในและต่างประเทศ แต่เจ้าของค่ายต้องยืดหยุ่นปรับตัว และมองหาโอกาสใหม่ๆอยู่เสมอ สำหรับเพลงลูกทุ่งในยุคปัจจุบันก็มีหลากหลายสไตล์ เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ชมผู้ฟัง ซึ่งทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับที่ความชื่นชอบส่วนบุคคล อย่างไรก็ดีศิลปะและธุรกิจจะต้องนำมาผสมสนานกัน ไม่ต่างกับค่ายเพลงในสมัยนี้ที่ต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอดด้วยเช่นกัน การที่อาร์สยามปรับเกมส์ทางธุรกิจ และหันมาบริหารงานเพลง(คอนเทนต์)คู่กับทีวี(มีเดีย) จึงเป็นกลยุทธ์ที่จะสนับสนุนให้รายได้ของอาร์สยามในปี 2012 เป็นไปตามเป้าได้อย่างแน่นอน " นายศุภชัย กล่าวทื้งท้าย