2011 อาร์เอสขึ้นแท่นเบอร์ 1 ดิจิตอล เอ็นเตอร์เทนเมนท์ เน็ตเวิร์ค ตั้งเป้ารายได้ 3,100 ล้านบาท

Backมกราคม 18, 2554

"อาร์เอส" เผยแผนธุรกิจปี 2011 มุ่งสร้างประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ผนวกช่องทางการขายให้สอดรับกับยุคดิจิตอล เสริมทัพด้วยการเร่งพัฒนาองค์กร ผ่าทางตันการตลาดแบบเดิมๆ พร้อมก้าวขึ้นสู่ เบอร์ 1 ด้านดิจิตอล เอ็นเตอร์เทนเมนท์ เน็ตเวิร์ค ควบคู่กับการรุกสายงานที่มีแววรุ่ง ประเมินการเติบโตประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ คาดการณ์ปีนี้ทำรายได้ 3,100 ล้านบาท ถึงแม้จะไม่มีโปรเจ็คกีฬาระดับโลกช่วยหนุน แต่ธุรกิจที่เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญยังเดินหน้าต่อเนื่องอย่างแข็งแรง

โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล - นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS เปิดเผยว่าทิศทางการดำเนินงานในปี 2011 นั้นบริษัทมุ่งสร้างประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ควบคู่กับการรุกธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตและมีประสิทธิภาพ เพื่อเสริมกับกลุ่มธุรกิจทั้งหมดในเครืออาร์เอสให้เดินหน้าไปพร้อมๆกัน ทั้งกลุ่ม Entertainment Content Provider และ กลุ่ม Media Service ภายใต้กลยุทธ์ FIRST อันได้แก่ F = FIT หมายถึง ความกระชับ เหมาะสม พอดี คุ้มค่า และมีความพร้อมอยู่เสมอ , I = Innovation หมายถึง ความคิดในเชิงนวัตกรรม การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ไม่หยุดอยู่กับที่ , R = R&D หมายถึง การใช้ข้อมูลข่าวสารมาวิเคราะห์เพื่อสนับสนุนการทำงาน , S = SPEED หมายถึง ความรวดเร็ว ความยืดหยุ่น การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงและการแข่งขัน ท้ายสุด T= TEAM หมายถึง การทำงานเป็นทีม การประสานสัมพันธ์ของหน่วยงานและพนักงานในทุกส่วนร่วมกัน ซึ่งจะใช้ยึดเป็นแนวทางในการเดินหน้าธุรกิจทั้งหมดของอาร์เอส ในปี 2011 เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงานและก้าวสู่การเป็น ผู้นำด้านดิจิตอล เอ็นเตอร์เทนเมนท์ เน็ตเวิร์ค ของเมืองไทย โดยตั้งเป้าไว้ว่า ปี 2011 บริษัทจะมีรายได้รวม 3,100 ล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจคอนเทนต์ 60% และมาจากธุรกิจมีเดียอีก 40%

สำหรับการดำเนินธุรกิจของอาร์เอสในปี 2011 บริษัทยังคงเน้นการผนวกคอนเทนต์บันเทิงรวมกับสื่อทุกประเภทที่มีอยู่ในมือเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน เพื่อส่งต่อเป็นนโยบายให้กับธุรกิจย่อยในเครืออาร์เอส ได้ดำเนินงานภายใต้นโยบายของบริษัทแม่ด้วยความรัดกุม อีกทั้งยังสร้างสรรค์โครงสร้างธุรกิจใหม่ ให้กับธุรกิจเพลงในยุคดิจิตอลอย่างสมบูรณ์ (Fully Digital Music) รวมถึงต่อยอดธุรกิจเดิมที่มีความแข็งแกร่งและมีโอกาสเติบโตอย่าง ธุรกิจวิทยุ และ ธุรกิจโมเดิร์นเทรด พร้อมปรับตัวเดินหน้าเข้าสู่ธุรกิจบรอดคาสติ้ง อย่างเต็มตัว กับธุรกิจโทรทัศน์ดาวเทียมที่เป็นดาวรุ่งในปีนี้ คู่ขนานกับการพัฒนาและสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดร่วมกับลูกค้า ผ่านหน่วยงานบริหารลูกค้าองค์กรอย่างเป็นรูปธรรม

ถึงแม้ว่าในปีนี้อาร์เอสจะไม่มีโปรเจ็คพิเศษอย่างฟุตบอลโลก แต่เชื่อว่าบริษัทจะสามารถเดินหน้าและผลักดันธุรกิจทั้งหมดในเครือ ให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยตัวขับเคลื่อนสำคัญของปี 2011 ก็คือ ธุรกิจเพลงและดิจิตอล (Music & Digital) ภายใต้แนวคิด ฟูลลี่ดิจิตอลมิวสิค (Fully Digital Music) ที่เดินหน้าธุรกิจเพลงอย่างเต็มกำลังในยุคดิจิตอลสมบูรณ์แบบ ที่มาพร้อมกับกลยุทธ์การควบรวมฐานลูกค้าในส่วนของ Mobile และ Online เข้าไว้ด้วยกัน เชื่อว่าทั้ง 2 กลุ่มเป็นฐานลูกค้ากลุ่มเดียวกัน จึงง่ายต่อการทำการตลาด ซึ่งเราก็เดินมาได้อย่างถูกทาง อีกทั้งยังสามารถตอกย้ำความสำเร็จของธุรกิจดิจิตอลได้เป็นอย่างดีจากแคมเปญ ซุปเปอร์เหมา *339 ที่สามารถทำยอดสมาชิกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สิ้นปี 2011 คาดว่าจะมีผู้ใช้มากถึง 3 ล้านราย ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะบริษัทเชื่อว่า ตลาดดิจิตอลยังอยู่ในช่วงขาขึ้นและยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก

ในขณะที่ธุรกิจมีเดียก็มีแนวโน้มการเติบโตที่สูงขึ้น ซึ่งธุรกิจวิทยุ(Radio)ภายใต้แบรนด์ สกาย-ไฮ เน็ตเวิร์ค โดยเฉพาะคลื่นคูล93ฟาเรนไฮต์(Cool 93 Fahrenheit)ก็มีความแข็งแกร่งในการเป็นเครื่องหมายทางการค้าที่มีมูลค่า(Brand Value)สูง ทำให้สามารถขยายไลน์ไปทำธุรกิจข้างเคียงได้จากความชัดเจนของกลุ่มลูกค้าที่มีความชื่นชมต่อแบรนด์ และมีกำลังซื้อด้วยการต่อยอดแบรนด์คูล จากคอนเทนต์ที่แข็งแกร่งในเรื่องของการท่องเที่ยว จนแตกธุรกิจใหม่เป็น คูล ละติจูด (Cool Latitude) ลุยงานทราเวลสไตล์ลิสต์ (Travel Stylist) ซึ่งคาดว่าจะสามารถทำรายได้อยู่ที่ 50 ล้านบาท ในปีแรกของการดำเนินงานเลยทีเดียว

นอกจากนี้ ธุรกิจโมเดิร์นเทรด (Modern Trade) โดย อาร์เอส อินสโตร์มีเดีย (In-store Media) ซึ่งประกอบไปด้วย สื่อวิทยุ (P.O.P Radio) , สื่อ LCD และ Bus Ad. ก็ยังมีการเติบโตสูงและมีโอกาสใหม่ๆเข้ามามาก เนื่องจากได้รับการยอมรับจากลูกค้าว่าเป็นสื่อที่มีประสิทธิภาพมากในการสร้างยอดขายได้เป็นอย่างดี ซึ่งการันตีจากผลการสำรวจของ นิลเส็น มีเดีย รีเสิร์ช ที่ยกให้ อาร์เอส อินสโตร์ มีเดีย ขึ้นแท่นเป็นสื่อที่สามารถสร้างการรับรู้ได้มากที่สุดในโมเดิร์นเทรด พร้อมกับตั้งเป้าเติบโตไม่ต่ำกว่า 30 % หรือมีเป้าหมายอยู่ที่ประมาณ 300 ล้านบาทในปี 2011

สำหรับธุรกิจดาวรุ่งที่เป็นตัวจักรสำคัญในการสร้างรายได้และการเติบโตอย่างมากในปีนี้คือ ธุรกิจโทรทัศน์ดาวเทียม เนื่องจากที่ผ่านมา ช่อง YOU Channel และ ช่องสบายดีทีวี ได้ทำการเปิดให้บริการมากว่า 1 ปี ก็ถือได้ว่าประสบความสำเร็จและมีผลการตอบรับที่ดีมาโดยตลอด อีกทั้ง ภายในไตรมาส 1 อาร์เอส ก็มีแผนที่จะเปิดตัวช่องเคเบิ้ลทีวี อีก 1 ช่อง คือ ช่อง 8 อินฟินิตี้ ภายใต้แนวคิดความสุขไม่รู้จบ ซึ่งจากที่มีอยู่เดิม 2 ช่อง เป็น 3 ช่อง เพื่อหาโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับบริษัทและเพิ่มช่องทางในการโปรโมทศิลปินในค่ายให้เป็นที่รู้จักและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง โดยตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ประมาณ 400 ล้านบาท

ในปี 2011 บริษัทยังคงดำเนินธุรกิจโดยแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มหลักๆ กลุ่มแรกก็คือ Entertainment Content Provider ซึ่งประกอบไปด้วย ธุรกิจเพลง,ดิจิตอล,โชว์บิซ,ฟิล์ม และกีฬา และกลุ่ม Media Service ประกอบไปด้วย ธุรกิจทีวี วิทยุ และธุรกิจบริหารสื่อโมเดิร์นเทรด พร้อมๆ กับการปรับโครงสร้างธุรกิจให้เหมาะสม สอดคล้อง และยืดหยุ่น เพื่อให้ธุรกิจทั้งหมดในเครืออาร์เอส เดินหน้า และเติบโตไปพร้อมๆกันได้อย่างลงตัว

"ผมมองว่าอุตสาหกรรมบันเทิงเมืองไทยปี 2011 จะยังคงเดินหน้าต่อไปได้ และเชื่อว่าธุรกิจทั้งหมดของอาร์เอส โดยเฉพาะธุรกิจเพลงและดิจิตอล รวมถึงธุรกิจโทรทัศน์ดาวเทียม จะเป็นดาวเด่นของอาร์เอส ทั้งในแง่ของนวัตกรรมและการสร้างรายได้ แต่ถึงอย่างไรการเดินหน้าทางธุรกิจในทุกๆก้าวของเราก็ต้องตั้งอยู่บนความไม่ประมาท หมั่นสำรวจตัวเองอยู่เสมอ ก้าวให้ทันผู้บริโภค และตามการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีให้ทัน ในวันนี้อาร์เอสจึงต้องวางแผนทั้งในแง่ของกลยุทธ์และชั้นเชิงในการเข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่ไปพร้อมๆ กัน ด้วยการชูกลยุทธ์องค์กร RS FIRST เพื่อก้าวสู่การเป็นเบอร์ 1 ด้านดิจิตอล เอ็นเตอร์เทนเมนท์ เน็ตเวิร์ค" นายสุรชัยกล่าวทิ้งท้าย