"อาร์เอส เฟรชแอร์"ผุด Winter Music Series 2008 @ Bonanza Khao-Yai มั่นใจสิ้นปีโกยรายได้จาก 3 โปรเจ็ค

Backกันยายน 09, 2551

อาร์เอส เฟรชแอร์ เดินเครื่องบุกตลาดบันเทิงอีเวนต์เต็มสูบอีกครั้ง หลังลงสนามชิงส่วนแบ่งธุรกิจสปอตเทนเม้นท์ ด้วยงบลงทุนกร่วม 100 ล้านบาทกับ S-One สนามฟุตบอลหญ้าเทียมที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ล่าสุดระเบิดงบกว่า 40 ล้านบาท ผุด 3 งานดนตรี ส่งท้ายปีกับแนวคอนเสิร์ตซีรี่ย์ "Winter Music Series 2008 @ Bonanza Khao-Yai" พร้อมเน้นหาผู้สนับสนุนหลักเพื่อลดความเสี่ยงทางธุรกิจ ลั่น !!! สิ้นปีโกยรายได้ตามเป้าแน่นอน !!!

ลาดพร้าว - นายวินิจ เลิศรัตนชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์เอส เฟรชแอร์ จำกัด บริษัทในเครืออาร์เอส เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้บุกตลาดบันเทิงกีฬากับการเปิดสนามฟุตบอลหญ้าเทียมที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย S-One เมื่อต้นเดือน พฤษภาคมที่ผ่านมาซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม มียอดจองสนามเต็มทุกวันทุกรอบ จากนี้ถึงต้นปีหน้าอาร์เอส เฟรชแอร์จะเริ่มเข้ามาเปิดเกมรุกช่วงปลายปีกับธุรกิจตลาดบันเทิงอีเว้นต์ หลังมีการวางแผนและเจรจากับสปอนเซอร์ได้อย่างลงตัว ภายในปีนี้จะเห็น 3 เทศกาลดนตรีฤดูหนาวภายใต้แนวคอนเสิร์ตซีรี่ย์ "Winter Music Series 2008 @ Bonanza Khao-Yai" ที่เอาใจคอเพลงกับ 3 คอนเสิร์ต 3 แนวดนตรี ประเดิมด้วย คอนเสิร์ต Road To Country Carabao & Friend เดือนพฤศจิกายนนี้ , คอนเสิร์ต Acoustic Winter Fest #3ในเดือนธันวาคม และมกราคม 52 กับคอนเสิร์ตใหญ่ AF Home Coming (AF1-AF5) ซึ่งเป็นการประชันกันระหว่าง AF ทั้ง 5 รุ่น บนเวทีเดียวกัน

โดย คอนเสิร์ต Road To Country Carabao & Friend ที่จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายนนี้ ตั้งแต่เวลา 17.00 - 02.00 น. ณ โบนันซ่า เขาใหญ่ โดยคอนเสิร์ตยิ่งใหญ่ของคาราบาวครั้งนี้จะรวบรวมเพื่อนศิลปินมาขับเสียงเพลงบรรยากาศสบายๆสไตล์คันทรีในหุบเขาไม่ว่าจะเป็น สุรชัย จันทิมาธร, หมู พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ, พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์ รวมถึง ปาน ธนพร แวกประยูร และศิลปินเพื่อชีวิตรุ่นใหม่มาแสดงพลังแห่งอุดมการณ์บนเวทีเดียวกัน โดยคอนเสิร์ตนี้ได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนจากสปอนเซอร์มากมาย

คอนเสิร์ตถัดมา ในช่วงลมหนาวของเดือนธันวาคม คือ Acoustic Winter Fest #3 ซึ่งถือเป็นเทศกาลดนตรีประจำฤดูหนาว โดยในปีนี้มีขึ้นในวันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม ตั้งแต่เวลา 16.00 - รุ่งสาง ณ โบนันซ่า เขาใหญ่ ภายใต้คอนเซปต์ Friend to Friend จากเพื่อนถึงเพื่อน โดยครอบคลุมทั้งศิลปิน คนดู และบรรยากาศภายในงาน โดยศิลปินที่แสดงในแต่ละช่วงจะมีเพื่อนของศิลปินคนนั้นหรือกลุ่มนั้นมาร่วมเล่น ร่วมแสดง โดยคอนเสิร์ตนี้รวบรวมศิลปินมากมายเป็นประวัติการณ์ อาทิ วง Sqweez Animal, วง Groove Riders, ฟอร์ด - สบชัย ไกรยูรเสน, โก้ - Mr.Saxman, โป้ - โยคีเพลย์บอย, วง ETC, Mr.Z - สมเกียรติ อริยชัยพาณิชย์, ป้อม ออโตบาห์น, ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล, น้อย วงพรู, วง Nossa Alma Canta และการกลับมาของ Dojo City Re-Union และสุดท้ายด้วย คอนเสิร์ต AF Home Coming (AF1-AF5) ของเหล่า AF ตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงรุ่นล่าสุด ที่รวบรวมทุกความมันมาประชันกันทุกรุ่นเพื่อร่วมกันสร้างสรรค์ความสนุกสนานให้แฟนๆได้ติดตามกันอีกครั้งในช่วงเดือนมกราคม 2552 ตั้งแต่เวลา 16.00 - รุ่งสาง ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติของโบนันซ่า เขาใหญ่

สำหรับเรื่องของสถานที่นั้น ได้จัดเตรียมพื้นที่ที่เหมาะสม กว้างขวางและเหมาะกับคอนเสิร์ตที่จะมีขึ้นอย่างแน่นอน อีกทั้งได้มีการเตรียมพร้อมในทุกด้าน ทั้งเรื่องการเดินทาง ห้องน้ำ ศูนย์อาหาร การดูแลรักษาความปลอดภัย รวมทั้งอุปกรณ์เครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ รับรองว่าหนาวนี้ทุกคนจะอบอุ่นไปกับเพลงเพราะที่สุดในอ้อมกอดของขุนเขา คลอเคล้าเสียงเพลงหลากหลายอารมณ์กับหลากศิลปิน อย่างไรก็ตาม คอนเสิร์ตทั้ง 3 ตัวนี้ บริษัทฯ มองว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้ประมาณ 75 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้จาก Road to Country Carabao & Friend ประมาณ 12 ล้านบาท Acoustic Winter Fest #3 จะมีรายได้อยู่ที่ 25 ล้านบาท และ AF Home Coming (AF1-AF5) จะสามารถสร้างรายได้ประมาณ 25 ล้านบาท

สำหรับคอนเสิร์ต AF Home Coming (AF1-AF5) คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ค่อนข้างชัดเจนที่สุด เพราะได้รับความร่วมมืออย่างดีจากสปอนเซอร์ และ AF แต่ละรุ่นต่างมีแฟนคลับของตัวเองอย่างเหนี่ยวแน่นอยู่แล้ว ทั้งนี้แนวทางบริหารงานของบริษัทฯในการจัดงานครั้งนี้ ยังคงเน้นหาผู้สนับสนุนหลักในแต่ละอีเว้นต์ ซึ่งบริษัทฯเป็นผู้คิดและนำเสนอรูปแบบงานให้สอดรับกับความต้องการของผู้สนับสนุนหลัก (Customize) เพื่อลดความเสี่ยงทางธุรกิจ โดยมุ่งเน้นหาสปอนเซอร์และผู้สนับสนุนหลักให้มีความคุ้มทุนก่อนเสมอ เพื่อปิดประตูขาดทุนทำให้รายได้หลักมาจากสปอนเซอร์และสามารถรับรู้กำไรขั้นต้น (gross margin) ในแต่ละอีเว้นต์ค่อนข้างชัดเจน

"ทั้ง 3 โปรเจคอยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ของคำว่า "เพื่อน (Friends)" โดยแบ่งแนวดนตรีอย่างชัดเจน ผมการันตีได้เลยว่าคอนเสิร์ตทั้ง 3 ตัวนี้จะคุ้ม และเต็มอิ่มทุกอารมณ์อย่างแน่นอน ถึงแม้สถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้จะมีผลกระทบต่อทุกภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม เจ้าของสินค้าเองก็ยังไม่กล้าที่จะลงทุน หรือชะลอการใช้เม็ดเงิน แม้กระทั่งภาพรวมของอุตสาหกรรมโฆษณาเอง ก็ยังจะต้องชะลอดูสถานการณ์ต่อไป แต่เชื่อว่าเจ้าของสินค้าก็ยังจำเป็นต้องใช้เงินสำหรับทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังมากขึ้น ในส่วนของธุรกิจบันเทิงยังถือว่าไม่กระทบมาก เพราะสามารถดูได้จากสปอนเซอร์และพันมิตรร่วมต่างๆ ที่ยังให้ความสนับสนุนเป็นอย่างดีและพร้อมที่จะใช้เม็ดเงิน หากสถานการณ์บ้านเมืองยังเป็นอยู่อย่างนี้ อุตสาหกรรมบันเทิงน่าจะยังไม่มีผลกระทบ เนื่องจากคนเครียดจากปัญหาต่างๆ สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดได้ " นายวินิจ กล่าวทิ้งท้าย