อาร์เอสประกาศปักธงรบทีวี เน้นแบ่งเซกเม้นท์ชัดเจน มัดใจคนดูด้วยกิจกรรมเชิงรุก ตั้งเป้าปี 51 โกย 230 ล้านบาท

Backกุมภาพันธ์ 26, 2551

อาร์เอสจัดทัพทีวี ประกาศพร้อมรบปี 51 ด้วยรายการทีวี 11 รายการ เผยสูตรความสำเร็จด้วยกลยุทธ์การตลาดกิจกรรมเชิงรุกที่ถูกใจและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจด้วยการแบ่งกลุ่มเป้าหมายแต่ละรายการอย่างชัดเจน เน้นทำรายการทีวีที่ผนวกสาระและความบันเทิงอย่างสร้างสรรค์ เผยปี 51 ตั้งเป้ารายได้ถึง 230 ล้านบาท

สยามสแควร์ - นางสาวอัจฉรา ลิ้มตระกูล รองกรรมการผู้อำนวยการกลุ่มงานธุรกิจโทรทัศน์ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน)
เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานของรายการโทรทัศน์ภายใต้แบรนด์อาร์เอสว่า ได้ปรับโครงสร้างการทำงานรวมถึงรายการโทรทัศน์ทั้งหมดให้สอดคล้องไปกับทิศทางการดำเนินงานของบริษัทแม่อย่างอาร์เอส โดยสาระสำคัญมุ่งเน้นสู่การวางกลยุทธ์ทางการตลาดที่ชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม โดยนำผลการวิจัย ( Research ) ที่ได้มาเป็นตัวขับเคลื่อนเพื่อสร้างกิจกรรมที่ถูกใจกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงวางรูปแบบรายการและกลุ่มเป้าหมายแต่ละรายการอย่างชัดเจน โดยที่ตั้งเป้ารายได้ธุรกิจโทรทัศน์ปี 51 ไว้ที่ 230 ล้านบาท จากปีก่อนที่ตั้งไว้ 210 ล้านบาท ถือเป็นอัตราเติบโต 9.5 % เมื่อเทียบกับปีก่อน

ปัจจุบัน บริษัทฯ มีรายการจำนวนทั้งสิ้น 11 รายการ แบ่งเป็น 3 ประเภทคือ รายการวาไรตี้ (Variety Program) โดยมีรายการออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 คือ รายการ " ฟ้าเมืองไทย " , รายการออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนท์ คือรายการ " กว่าจะเป็นดาว " อีกประเภทคือ รายการทีน วาไรตี้ (Teen Variety Program) โดยมีรายการออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 คือรายการ " Hi- Friend เพื่อนสู่เพื่อน " และรายการ " กามิกาเซ่คลับ เมืองเยาวชน " สำหรับรายการประเภทเพลง (Music Program) มีการแบ่งเซกเม้นท์ที่ชัดเจน โดยมีรายการออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 คือ รายการ " POPUP LIVE ( ป๊อปอัพ ไลฟ์) " ที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นวัยรุ่นอายุ 13- 18 ปี และรายการ " TV Relax (ทีวีรีแลกซ์) " ที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นวัยรุ่นจนถึงวัยทำงานอายุระหว่าง 18-35 ปี และมีรายการออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 คือรายการ " 2 Nite Live " โดยเป็นรายการที่มีกลุ่มเป้าหมายป็นวัยรุ่นอยู่ในช่วงอายุระหว่าง 18 - 25 ปี , รายการ " Showroom " มีกลุ่มเป้าหมายเป็นวัยรุ่นชายและหญิงที่มีช่วงอายุตั้งแต่ 18 - 25 ปี และรายการ " เมนูวันหยุด " ที่ออกอากาศเฉพาะวันหยุดนักขัตฤกษ์ และมีกลุ่มเป้าหมายอายุ 15 - 25 ปี รายการที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนท์ คือรายการ " หัวใจสะพายเป้ " รายการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายอายุ 18 - 25 ปี และรายการ " Dark Society ( รวมพล..คนพันธุ์ซ่า) " ที่มีกลุ่มเป้าหมายชายหญิงอายุระหว่าง 18 - 35 ปี

" สำหรับธุรกิจทีวี เราได้วางโพซิชั่นนิ่งที่ชัดเจน และใช้กลยุทธ์ด้านของกิจกรรมเข้ามาเจาะกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งเป็น ตลาดที่อาร์เอสแข็งแรงมาโดยตลอด โดยใช้ประโยชน์จากทรัพย์สิน และศิลปินของบริษัทให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุด ซึ่งบริษัทมีธุรกิจเพลง ที่เป็นธุรกิจต้นน้ำที่แข็งแรงอยู่แล้ว เราจึงผลิตรายการต่างๆออกมาสนองตอบความต้องการของคนดูได้เป็นอย่างดี โดยที่กิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นนั้น เน้นที่สาระและความบันเทิงรวมถึงสอดแทรกเนื้อหาที่สร้างสรรค์ในรูปแบบของสคูลวิสิท (School visit) เข้าไปจัดกิจกรรมร่วมกันกับนักเรียน นักศึกษาตามโรงเรียนและมหาวิทยาลัยต่างๆ ถือเป็นการสร้างประสบการณ์ร่วมกันให้คนดูได้ใกล้ชิดกับคอนเท้นท์และศิลปินอาร์เอสมากขึ้น โดยที่การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับคนดูผ่านกิจกรรมต่างๆ นั้น ยังตอบกลับมาเป็นรายได้ชนิดที่เกินคาดด้วยการขายสปอนเซอร์ เนื่องจากกิจกรรมที่เกิดขึ้นนั้นส่วนหนึ่งเป็นการคิดร่วมกันระหว่างสปอนเซอร์ "


นางสาวอัจฉรากล่าวเพิ่มเติมถึงการทำธุรกิจโทรทัศน์ในปัจจุบันว่าสภาวะตลาดโดยรวมถือว่ามีการแข่งขันในตลาดค่อนข้างสูง เนื่องจากมีผู้เล่นในตลาดเกิดขึ้นมากมาย แต่อย่างไรก็ตามบริษัทเชื่อมั่นว่าจากการวางแนวทางที่ชัดเจนขึ้น บวกกับแผนการตลาดที่สามารถสร้างกิจกรรมขึ้นมาครองใจกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี จะทำให้ธุรกิจทีวีสามารถทำรายได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ โดยที่รายได้ของโทรทัศน์อาร์เอสมาจาก 2 กลุ่มใหญ่ คือจากการขายโฆษณา 80 % และจากกิจกรรมที่ต่อยอดจากรายการอีก 20 % โดยที่กลุ่มลูกค้าที่เข้ามาซื้อช่วงโฆษณาส่วนใหญ่เป็นสินค้าวัยรุ่นถึง 40 % และสินค้าผู้หญิง 40 % อีก 20 % เป็นสินค้าประเภทครอบครัว

" เราเชื่อมั่นว่าตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไปภาพรวมเศรษฐกิจของเมืองไทยจะมีแนวโน้มเติบโตดีขึ้น เนื่องจากความชัดเจนมากยิ่งขึ้นทั้งในเรื่องของการจัดตั้งรัฐบาล และทิศทางของเศรษฐกิจโลกที่มีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะวงการโทรทัศน์ เพราะรายการทีวีถือเป็นสินค้าตัวหนึ่งที่บริการคนดูทางด้านเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ แต่ทั้งนี้จะเห็นเกมการแข่งขันของธุรกิจโทรทัศน์ปี้ค่อนข้างดุเดือด เนื่องจากมีผู้ผลิตยักษ์ใหญ่จำนวนมาก จะต้องขับเคลื่อนทัพเพื่อแย่งเรตติ้งกันให้ได้มากที่สุด ซึ่งหากรายการไหนที่ทำเรตติ้งได้ดี ย่อมมีผลต่อการดึงเม็ดเงินโฆษณาเข้ามามากตามไปด้วย " นางสาวอัจฉรากล่าวทิ้งท้าย