"อาร์เอส" แจงรายได้รวมไตรมาส 3 กว่า 600 ล้าน ชี้ธุรกิจ "โชว์บิส-หนัง-อินสโตร์ มีเดีย" เด่นส่งท้ายปี

Backพฤศจิกายน 13, 2550

" อาร์เอส " แจงรายได้รวมไตรมาส 3 กว่า 600 ล้าน ชี้ธุรกิจโชว์บิซ ภายใต้บริษัทอาร์เอส เฟรชแอร์สดใส ได้ 3 คอนเสิร์ตหนุน ขณะที่ธุรกิจอาร์เอส อินสโตร์มีเดีย เริ่มรับรู้รายได้ และมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องสูง เผยธุรกิจหนังเตรียมเข็นหนังไทยอีก 2 เรื่อง " โปงลางสะดิ้ง ลำซิ่งส่ายหน้า-รักสยามเท่าฟ้า " เข้าโรงโกยเงินส่งท้ายปี

ลาดพร้าว-นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ กรรมการผู้อำนวยการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2550 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 610.8 ล้านบาท ลดลง 103.5 ล้านบาท หรือคิดเป็น 14.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 714.31 ล้านบาท สาเหตุหลักที่ทำให้รายได้ลดลงมาจากธุรกิจสื่อทีวี เนื่องจากมีการลดเวลาออกอากาศ ขณะที่รายได้จากธุรกิจภาพยนตร์เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการออกฉายภาพยนตร์เรื่องบ้านผีสิง เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนของปีเดียวกันไม่มีการนำภาพยนตร์ออกฉาย

สำหรับสาเหตุหลักที่ทำให้ขาดทุนมาจากการได้รับแจ้งยกเลิกกำหนดการ ที่จะแสดงมายากลของเดวิด คอปเปอร์ฟิลด์ที่จะมาแสดงในไทย ทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถจัดการแสดงดังกล่าวได้ตามกำหนดการที่วางไว้ ขณะที่บริษัทฯ มีรายจ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการเตรียมงานดังกล่าวไปแล้ว ได้แก่ ค่าตัวศิลปิน ค่าใช้จ่ายในการโปรโมท ค่านายหน้า รวมถึงค่าธรรมเนียมในการขายบัตร ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการติดต่อ เพื่อรับเงินล่วงหน้าคืน นอกจากนี้จากการที่บริษัทเริ่มขยายธุรกิจไปสู่ช่องทางใหม่ๆ ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งธุรกิจดังกล่าวขยายตัวไม่เต็มที่ เป็นผลให้เกิดการขาดทุนในช่วงเริ่มต้น อย่างไรก็ดีบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าหากธุรกิจขยายตัวเต็มที่จะสามารถสร้างมูลค่าให้กับบริษัทฯ ต่อไป

ทั้งนี้ บริษัทฯ แบ่งสัดส่วนรายได้รวม ดังนี้ มาจากธุรกิจเพลง 213.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายวีซีดีคอนเสิร์ตโปงลางสะออน ตอนอเมซิ่งไทยแลนด์ ธุรกิจวิทยุ 101.48 ล้านบาท ธุรกิจโชว์บิส 91.35 ล้านบาท ธุรกิจภาพยนตร์ 58.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากการนำภาพยนตร์เรื่อง " บ้านผีสิง " เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ขณะที่ไตรมาสเดียวกันของปีก่อนไม่มีการนำภาพยนตร์ออกฉาย ธุรกิจดิจิตอล 53.81 ล้านบาท ธุรกิจผลิตรายการทีวี 51.79 ล้านบาท ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ 24.81 ล้านบาท และธุรกิจอื่นๆ 14.88 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 4 ปี 2550 มองว่าธุรกิจที่บริษัทฯเข้าไปลงทุนในช่วงที่ผ่านมาน่าจะเริ่มสร้างมูลค่าให้กับบริษัท ฯ โดยในธุรกิจโชว์บิสจะมีรายได้หลักมาจากการจัด 3 คอนเสิร์ต ได้แก่ " 3 BS & Play Boy" ที่จะมีขึ้นวันที่ 16 พ.ย 50 นี้ที่อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี , "KTC Loveis Winter Festival 2007" ในวันที่ 8 ธ.ค 50 ที่โบนันซ่า เขาใหญ่ , และอีกหนึ่งคอนเสิร์ตตำนานเพลงเพื่อชีวิตของเมืองไทยต้นปีหน้าคือ " คาราบาว อันปลั๊ก " ในวันที่ 12 ม.ค 51 ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท อาร์เอสเฟรชแอร์ จำกัด โดยมีนายวินิจ เลิศรัตนชัย ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการ ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็น 3 คอนเสิร์ตที่ได้รับการกล่าวขานอย่างมาก เช่นเดียวกับที่อาร์เอสเฟรสแอร์เคยจัด " KTC Lovies Acoustic Winter Festival " จนประสบความสำเร็จอย่างสูงเมื่อปลายปี 2549

นอกจากนี้ บริษัทยังวางแผนจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองวาระ 80 พรรษา ถึง 2 งาน คือ งานเปรมปรีดิ์ทั่วหล้า 80 พรรษา มหาราชันย์ และงานคอนเสิร์ตเพลงพระราชนิพนธ์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ขณะเดียวกัน บริษัทฯ เริ่มทยอยรับรู้รายได้จากการเข้าไปถือหุ้นในบริษัท อาร์เอส อินสโตร์ มีเดีย จำกัด หรือ RSIM เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพและยังมีแนวโน้มเติบโตสูง โดยอิงจากการขยายสาขาใหม่อย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ในแต่ละปีของโมเดิร์นเทรดแต่ละแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น บิ๊กซี ซูเปอร์มาร์เก็ต, คาร์ฟูร์, เทสโก้ โลตัส, โลตัส เอ็กซ์เพรส และ ท็อป ซูเปอร์มาร์เก็ต ขณะเดียวกันยังมองว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางใหม่ ที่จะทำให้บริษัทฯ ส่งคอนเทนต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลง หนัง ละคร ฯลฯ เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรงได้อย่างง่ายดาย

" เราเชื่อว่าช่วงโค้งท้ายจะเป็นไตรมาสที่ดีของเรา เพราะนอกจากแนวโน้มการเติบโตของอาร์เอสเฟรสแอร์ และอาร์เอส อินสโตร์ มีเดียจะโดดเด่นแล้ว ยังมีธุรกิจหนังที่โดดเด่นไม่แพ้กัน โดยกำลังเตรียมจะนำภาพยนตร์ไทยเข้าฉายอีก 2 เรื่อง ได้แก่ ภาพยนตร์เรื่องโปงลางสะดิ้ง ลำซิ่งส่ายหน้า นำแสดงโดย อี๊ด-ลาล่า-ลูล่า จากวงโปงลางสะออน พร้อมด้วยบีม-กวี ตันจรารักษ์ และไหม-วิสา สารสาส และภาพยนตร์เรื่องรักสยามเท่าฟ้า นำแสดงโดย หนุ่ม-ศรราม เทพพิทักษ์ " นายสุรชัย กล่าว