" อาร์เอส " โชว์ผลประกอบการไตรมาสแรก 580.82 ล้านบาท ปลื้มอานิสงค์ปรับโมเดลธุรกิจใหม่ในการเป็น The Entertainment Network ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนได้ดี ดันกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 8.95 ล้านบาท เติบโต 14.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ชี้ " ธุรกิจโชว์บิส " และ " ธุรกิจภาพยนตร์ " เป็นดาวรุ่งหนุนรายได้ครึ่งปีหลังพุ่ง เผยครึ่งปีหลังผุดกิจกรรมใหญ่อีกหลายโครงการ โกยเม็ดเงินอีกเพียบ
ลาดพร้าว-นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2550 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 580.82 ล้านบาท ลดลง 36.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 792.12 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิ 8.95 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.01 บาท เพิ่มขึ้น 14.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 7.84 ล้านบาท แต่หากคิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นยังอยู่ในราคาเดิมที่ 0.01 บาท
" แม้ตัวเลขรายได้รวมไตรมาสแรกของบริษัทฯ จะลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่บริษัทฯ มีมาร์จิ้นดีขึ้น ซึ่งเป็นผลพวงจากการปรับโมเดลธุรกิจใหม่ ในการเป็นเครือข่ายบันเทิงสมบูรณ์แบบ ( The Entertainment Network ) เน้นบริหารสินทรัพย์ทำรายได้สูงสุด 360 องศารอบตัว ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนได้ดี โดยธุรกิจเพลงมีนโยบายควบคุมการออกอัลบั้มในรูปแบบซีดีและวีซีดี แต่จะเน้นการออกเป็นซิงเกิ้ล และรวมฮิตในภายหลังมากขึ้น รวมถึงการออกดิจิตอลอัลบั้มให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคมากขึ้น เช่นเดียวกับธุรกิจทีวีที่แม้จะมีจำนวนรายการลดลง แต่ก็โฟกัสรายการให้ดีขึ้น " นายสุรชัย กล่าว
สำหรับสัดส่วนของรายได้ไตรมาส 1/50 แบ่งเป็น รายได้จากธุรกิจเพลง 145.52 ล้านบาท หรือคิดเป็น 26% ของรายได้รวม, รายได้จากธุรกิจดิจิตอล 45.88 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8% ของรายได้รวม, รายได้จากธุรกิจโชว์บิส 171.52 ล้านบาท หรือคิดเป็น 32% ของรายได้รวม, รายได้จากธุรกิจภาพยนตร์ 47.24 ล้านบาท หรือคิดเป็น 9% ของรายได้รวม, รายได้จากธุรกิจทีวี 29.23 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5% ของรายได้รวม, รายได้จากธุรกิจวิทยุ 79.36 ล้านบาท หรือคิดเป็น 14% ของรายได้รวม, รายได้จากธุรกิจสิ่งพิมพ์ 31.68 ล้านบาท หรือคิดเป็น 6% ของรายได้รวม และรายได้จากธุรกิจอื่นๆ 4.24 ล้านบาท หรือคิดเป็น 6% ของรายได้รวม
" รายได้จากธุรกิจหนังมีอัตราเติบโตดี เมื่อเทียบกับรายได้จากธุรกิจอื่นๆ เพราะบริษัทเพิ่งปรับโมเดลธุรกิจใหม่ เน้นลงทุนร่วมผลิตและทำตลาดเชิงรุกกับพันธมิตร ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าเป็น กลุ่มเป้าหมายเดียวกัน โดยมีการทำวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคว่า ต้องการรับชมหนังประเภทไหน เพื่อนำไปคิด สร้างสรรค์พล็อตเรื่อง และหน้าหนังให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุด ภายใต้งบการผลิตไม่เกิน 20 ล้านบาทต่อเรื่อง เพื่อปิดประตูขาดทุนพร้อมรับรู้กำไรตั้งแต่ตั๋วใบแรก ทำให้มีรายได้เฉลี่ยต่อเรื่องเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านๆ มา " นายสุรชัย กล่าว
ทั้งนี้ คาดว่าในอนาคตธุรกิจโชว์บิส ( RS Showbiz ) และธุรกิจกีฬา ( RS Sport ) ยังเป็นธุรกิจทำรายได้ให้บริษัทสูง เนื่องจากมีแผนจะจัดกิจกรรมใหญ่ๆ อีกหลายโปรเจค อย่างศึกมวยปล้ำ WWE Summerslam in Thailand 2007 หรือแม้กระทั่งคอนเสิร์ตของศิลปินในค่ายอย่างโปงลางสะออน แดน-บีม ฯลฯ ที่จะทยอยเกิดขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 และ 3 เป็นต้นไป