" อาร์เอส " โชว์ผลประกอบการปี 49 รายได้รวม 3,140.2 ล้านบาท โกยกำไรสุทธิกว่า 150 ล้าน เติบโต 135.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน ชี้รับอานิสงค์จาก " รายได้ขายโฆษณาในสื่อต่างๆ-รายได้รับจ้างผลิต-รายได้จัดคอนเสิร์ต-รายได้จัดอีเวนต์ " พุ่ง แย้มบอร์ดจ่อคิวชงที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 50 ในวันที่ 20 เม.ย. นี้ ไฟเขียวจ่ายปันผลหุ้นละ 15 สตางค์ ในวันที่ 18 พ.ค. 50
ลาดพร้าว-นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS เปิดเผยถึงผลประกอบการปี 2549 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 3,140.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.3 % เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,747 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิ 154.7 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.22 บาท เพิ่มขึ้น 135.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีขาดทุนสุทธิ 433.1 ล้านบาท หรือคิดเป็นขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.62 บาท
สาเหตุที่รายได้รวมเพิ่มขึ้นมาจากหลายปัจจัย ได้แก่ รายได้จากการขายโฆษณาในสื่อต่างๆ เพิ่มขึ้น 179.2 ล้านบาท หรือคิดเป็น 23.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน ดังนี้ รายได้จากธุรกิจสื่อวิทยุเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับปีก่อน รายได้จากธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์เพิ่มขึ้น 125.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากมีการขยายหัวหนังสือเพิ่มขึ้น 2 หัว คือ นิตยสารเฟม ( Fame ) และหนังสือพิมพ์บันเทิงดาราเดลี่ วีคเอนด์ ( Dara Daily Weekend ) รายได้จากธุรกิจสื่อโทรทัศน์เพิ่มขึ้น 8.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน เพราะมีการบริหารรายการโทรทัศน์ประเภทอื่นที่ไม่ใช่รายการเพลงเพิ่มขึ้น
ตลอดจนรายได้จากการรับจ้างผลิตเพิ่มขึ้น 108.7 ล้านบาท หรือคิดเป็น 34.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน รวมทั้ง รายได้จากการจัดคอนเสิร์ตและรายได้จากการจัดกิจกรรมการตลาดเพิ่มขึ้น 90.3 ล้านบาท หรือคิดเป็น 39.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากมีการส่งมอบงานโครงการราชการมากขึ้น อีกทั้งมูลค่ารายได้เฉลี่ยต่องานสูงขึ้น ตัวอย่างของงานอีเวนต์ใหญ่ที่เกิดขึ้นในปี 2549 ได้แก่ ศึกมวยปล้ำ WWE Smack Down LIVE in Bangkok 2006 งานคอนเสิร์ต 36 ปีช่อง3 งานพัทยาอินเตอร์เนชั่นแนล มิวสิค เฟสติวัล 2006 งาน พิธีเปิด-ปิดกีฬาแห่งชาติสุพรรณบุรีเกมส์ งาน ISUZU THAILAND ADVENTURE RACE 2006
อย่างไรก็ดี แม้ต้นทุนการขายและการผลิตจะเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนของรายได้ที่เพิ่มขึ้นประมาณ 218.7 ล้านบาท หรือคิดเป็น 10.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารลดลง 380.8 ล้านบาท หรือ
คิดเป็น 5.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน เพราะเป็นผลมาจากการลดลงของค่าเผื่อสินค้าเสื่อมสภาพ และค่าเผื่อการด้อยค่าของสินทรัพย์ เนื่องจากในปี 49 บริษัทมีนโยบายจัดการบริหารสินค้าคงเหลือให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ด้วยการควบคุมปริมาณการออกอัลบั้มเพลงให้รัดกุมมากขึ้น รวมถึงควบคุมปริมาณสินค้าที่ขายให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้บริโภค
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ (บอร์ด) ครั้งที่ 3/2550 เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2550 ที่ผ่านมา มีมติให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 50 ในวันที่ 20 เมษายน 2550 พิจารณาอนุมัติการจัดสรรกำไรสุทธิสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 49 ดังนี้ 1.จัดสรรเป็นทุนสำรองตามกฎหมาย 5,575,472.38 บาท และ 2.จ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นตามที่ปรากฏรายชื่อ ณ วันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น เพื่อสิทธิในการรับเงินปันผล ในวันที่ 30 มีนาคม 2550 เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป จนกว่าการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นจะแล้วเสร็จ โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 18 พฤษภาคม 2550